กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.44) เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมระหว่างสำนักและสำนักงานเขต โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารทุกสำนัก และสำนักงานเขต
ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การประชุมวันนี้เพื่อกำชับนโยบายในบางเรื่องที่สำคัญและติดตามการปฏิบัติงานให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากขณะนี้ได้เริ่มต้นปีงบประมาณ 2545 ซึ่งน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับระบบงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้กทม.มีการโยกย้ายข้าราชการจึงอยากให้ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ได้รับทราบนโยบายเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องสำคัญที่ประชุมในวันนี้ ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ สรุปว่า
เน้นจัดทำแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2545-2549)
กทม.ย้ำทุกสำนักและทุกสำนักงานเขตให้ความสำคัญกับการจัดทำแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2545-2549) โดยมุ่งเน้นหลักการมีส่วนร่วมของทุกภาคในสังคมเป็นสำคัญ อีกทั้งเป็นช่วงที่เหมาะสมในการที่จะต้องปรับวิธีการบริหารงานในรูปแบบใหม่ ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 9 ของรัฐบาล โดยให้ทุกสำนักและสำนักงานเขตแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการของหน่วยงาน และใช้เป็นเครื่องมือในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการเงินและแผนปฏิบัติงาน 3 ปี ให้สอดคล้องกับทิศทางของแผนพัฒนากทม. เพื่อที่จะทำให้การดำเนินงานของหน่วยงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
CITYNET BANGKOK CONGRESS 2001
การประชุม CITYNET BANGKOK CONGRESS ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. — 2 พ.ย. 44 ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมจะประกอบด้วย นายกเทศมนตรีเมือง ผู้บริหารเมือง ผู้นำองค์กรนานาชาติและเอกชนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค จาก 20 ประเทศ ประมาณ 300 คน โดยแบ่งหัวข้อการประชุมเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาของเมือง เช่น สิ่งแวดล้อม การกระจายอำนาจในการบริหารจัดการเมือง ระบบการขนส่ง การปกครองท้องถิ่นกับสตรี ความยากจน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนากรุงเทพมหานครต่อไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะแถลงข่าวในวันที่ 19 ต.ค. 44 เวลา 11.00 น. ณ ห้องรับรองกรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
ส่งเสริมการตลาดเพื่อพัฒนาชุมชน
สืบเนื่องจากการจัดงานมหกรรมชุมชนไทยในบางกอกที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่ผ่านมา ผลการประเมินและสำรวจข้อมูลตลอดทั้ง 4 วัน ปรากฏว่ามีผู้สนใจเข้าชมงาน โดยรวมจำนวนลงทะเบียนทั้งสิ้น 55,626 คน มียอดเงินหมุนเวียนตลอดงานรวมประมาณ 27 ล้านบาท และในโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลไม่ได้มีเพียงงานนี้งานเดียว แต่เป็นการเปิดตัวและเริ่มต้นตลาดชุมชน ซึ่งกรุงเทพมหานครจะนำสินค้าที่จัดแสดงในงานดังกล่าว และสินค้าจากชุมชนในกทม.ที่กำลังพัฒนาให้ได้คุณภาพ มาตรฐานวางจำหน่ายยังตลาดอีก 20 แห่งทั่วกทม. มีตลาดขนาดใหญ่บริเวณ RCA 1 แห่ง และอีก 19 แห่ง ได้แก่ บางกะปิพลาซ่า อาคารจัสโก้ (เดิม) ตลาดน้ำมีนบุรี ตึกช้าง ศูนย์การค้ามีนบุรี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์มาร์ท พระราม 3 ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค บางแค ห้างสรรพสินค้าเมอร์รี่คิงส์ สะพานควาย วงเวียนใหญ่และวังบูรพา ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิร์ล ลาดพร้าว ตลาดมหาโชค ตลาดรัชดาภิเษก ตลาดประชานิเวศน์ 1 ตลาดเทวราช ตลาดพระเครื่องวงเวียนเล็ก ตลาดราษฎร์บูรณะ ตลาดธนบุรี และตลาดสิงหา โดยตลาดทั้ง 20 แห่งนี้ ชุมชนไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดเป็นเวลา 1 ปี และมีการกำหนดจะเปิดตลาดดังกล่าวในวันที่ 4 พ.ย.44 เพื่อรองรับชุมชนที่ต้องการตลาดในการขายสินค้า อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้กับพี่น้องชาวชุมชนกทม. 1,600 แห่ง อย่างแท้จริง
การจัดเก็บค่าบริการรักษาความสะอาดบริเวณทางเท้าที่ใช้ตั้งวางแผงลอย
ขณะนี้กทม.อยู่ระหว่างการรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน โดยนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนี้กทม.มุ่งเน้นที่จะป้องกันปัญหาการเก็บเงินนอกระบบ สำหรับค่าบริการรักษาความสะอาดฯที่กทม.จัดเก็บนั้นจะนำมาพัฒนาทางเท้าคืนกลับไปให้กับประชาชน ซึ่งจาการรายงานการจัดเก็บ ณ วันที่ 15 ต.ค. 44 ได้จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 1,563,766 บาท แม้ว่าจะยังจัดเก็บได้ไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อสังเกตบางเรื่องที่เจ้าของแผงลอยมักจะอ้างถึงการจัดเก็บค่าบริการฯที่มากหรือน้อยไป ซึ่งรองปลัดกทม. นายสุทธิชัย ทรรศนสฤษดิ์จะได้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมในวันที่ 19 ต.ค.44 เพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหารวมถึงการลดอัตราการจัดเก็บค่าบริการ ให้เป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง ชัดเจน นอกจากนี้จะกำชับทุกสำนักงานเขตให้ดำเนินการรักษาความสะอาดฯเข้มงวดยิ่งขึ้น สำหรับผู้ค้านอกจุดผ่อนผัน สำนักงานเขตต้องดำเนินมาตรการกวดขันอย่างจริงจังตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
มาตรการรักษาความปลอดภัยในหน่วยงานของกทม.
ปลัดกรุงเทพมหานครได้กำชับข้าราชการและลูกจ้างปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่ของหัวหน้าหน่วยงานที่จะต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้อาจจะกระทบกับความรู้สึกในการมาใช้บริการของประชาชนบ้าง ขอให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการตามความเหมาะสมกับเหตุการณ์ และขอให้สร้างความเข้าใจกับประชาชนด้วย
การใช้ที่สาธารณะจัดงาน
ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า กทม.มีนโยบายให้แต่ละสำนักงานเขตกำหนดปฏิทินการจัดงานในที่สาธารณะสำหรับ แต่ละปี ทั้งนี้ให้ยึดหลักถึงความเหมาะสม และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งการจัดงานในที่สาธารณะไม่ควรเรียกเก็บเงินจากผู้ค้าเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงาน ทั้งนี้ตนจะหารือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เป็นการไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน--จบ--
-นห-