กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--สสว.
รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยว่า วันนี้ (25 ก.ย. 2560) สสว. ได้จัดประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่ประธาน แทนนายกรัฐมนตรี สาระสำคัญของการประชุม สรุปได้ดังนี้
1.เห็นชอบมาตรการเพิ่มขีดความสามารถและส่งเสริมความรู้ให้กับ SMEs ในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน งบประมาณ 500 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดคือ
จากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่ผันผวนไปถึง 7-8 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ทำให้ผู้ส่งออกโดยเฉพาะSME กลุ่มส่งออกกว่า 20,000 ราย ได้รับผลกระทบ โดย SME เองก็ไม่มีความรู้และความสามารถในการประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน นายสมคิด รองนายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) สมาคมธนาคารไทยและ สสว. หารือกันและเห็นว่า ปัจจุบันเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนและแข็งค่ามากขึ้น นับตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2560 ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออกของไทยลดลง ในขณะที่ SMEs ที่ประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลให้ SMEs จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ส่งออกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ค่าเงินบาท และได้ข้อสรุปว่า จะดำเนินมาตรการเพิ่มขีดความสามารถและส่งเสริมความรู้ให้กับ SMEs ในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจและสนับสนุนการใช้เครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยมี ธสน. และ สมาคมธนาคาร เป็นผู้ดำเนินการหลักในการจัดอบรม SME ที่ประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เน้นการให้ความรู้เรื่องการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ในระยะแรกจะมีการมอบคูปอง มูลค่า 3 หมื่นบาทต่อราย ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs 5,000 รายที่เข้าอบรมและเป็นลูกค้าของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อนำไปซื้อ FX Options ขั้นพื้นฐาน กับธนาคารที่เข้าร่วมดำเนินงานตามมาตรการฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด
โดยคูปองดังกล่าวไม่สามารถซื้อขาย เปลี่ยนมือ แลกเปลี่ยนหรือทอนเป็นเงินสดได้ และสามารถใช้สิทธิ์เมื่อใดก็ได้ในช่วงเวลาที่กำหนด และใช้ได้จนกว่าจะครบวงเงิน หรือหมดอายุ (เบื้องต้นกำหนดอายุของคูปองไว้ที่ สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2561) ซึ่งในระยะแรกจะเน้นเฉพาะ SMEs ที่เป็นผู้ส่งออกที่มียอดขายไม่เกิน 400 ล้านบาทต่อปี และเป็นสมาชิกของ สสว. โดยจะพิจารณาคัดเลือก SMEs ที่มียอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปีเป็นลำดับแรกและผู้เข้าอบรมจะต้องเป็นเจ้าของกิจการ หรือผู้มีอำนาจตัดสินใจเท่านั้น เพราะได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์การผันผวนของค่าเงินบาท
ที่ประชุมมีมติ เห็นชอบในหลักการและงบประมาณที่จะใช้คือ วงเงิน 500 ล้านบาทโดยหารือกับสำนักงบประมาณเพื่อใช้เงินงบกลาง
2. แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการสรรหา ผอ. สสว.
สืบเนื่องจากการดำรงตำแหน่งของ นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการ สสว. ได้สิ้นสุดลงแล้ว ในวันที่ 21 กันยายน 2560ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการบริหารฯ จะต้องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ จำนวนไม่เกิน 5 คน เพื่อดำเนินการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานฯ ให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน นับแต่วันแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับว่าด้วยการคัดเลือกผู้อำนวยการฯ พ.ศ. 2552 และเมื่อคณะอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการฯ ดำเนินการสรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฯ แล้ว จะต้องเสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการบริหารฯ เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง ต่อไป
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณอนุะกรรมสรรหา ผอ.สสว. โดยรายชื่อคณะอนุกรรมการสรรหา ให้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ดฯ เป็นผู้พิจารณาแต่งตั้ง โดยให้นายชัยพร ชยานุรักษ์ รองผู้อำนวยการ รักษาการในตำแหน่ง ผอ.สสว. ต่อไปจนกว่าจะแต่งตั้งผอ.สสว. แล้วเสร็จ