กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--IR PLUS
หุ้นไอพีโอ ICN กระแสแรงสุดๆ !!! ขายเกลี้ยง 120 ล้านหุ้น หลังเสนอขายวันที่ 8 และ 11-12 ก.ย. ที่ผ่านมา "สมภพ กีระสุนทรพงษ์" กรรมการผู้อำนวยการ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่าย เชื่อการกำหนดราคาไอพีโอ 1.84 บาท/หุ้น เป็นราคาเหมาะสม ประกอบกับเป็นหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักลงทุน ด้าน "มนชัย มณีไพโรจน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยนำเงินที่ระดมทุน 220.80 ล้านบาท ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพิ่มศักยภาพธุรกิจและสร้างการเติบโตในอนาคต หวังเป็นหนึ่งในหุ้น Growth Stock ขวัญใจนักลงทุน เชื่อเข้าซื้อขายวันแรก 15 กันยายนนี้ มั่นใจไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส จำกัด (มหาชน) หรือ ICN กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายที่ 1.84 บาท/หุ้น ระหว่างวันที่ 8 และ 11-12 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าหุ้นของ ICN ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อหุ้นไอพีโอเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีศักยภาพสูงในการเติบโต มีความโดดเด่น มีอนาคตสดใส การกำหนดราคาที่ 1.84 บาท หากคำนวณ P/E Ratio โดยใช้กำไรสุทธิ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 กรกฎาคม 59 - 30 มิถุนายน 60) จะเท่ากับ 18.37 เท่า จึงมั่นใจว่า ICN จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และเข้าทำการซื้อขายวันแรกได้อย่างประทับใจ
"ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเปิดจองหุ้นไอพีโอของ ICN ในครั้งนี้ มีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก คาดว่าเป็นผลจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในธุรกิจ และศักยภาพการเติบโตสูง จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของผู้บริหารซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจโทรคมนาคมมากว่า 25 ปี และมีทีมงานที่แข็งแกร่ง การเติบโตของบริษัทฯ ที่มีรายได้เติบโตต่อเนื่องและก้าวกระโดดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เป็นอีกบทพิสูจน์ให้เห็นว่าบริษัทICN ได้รับความเชื่อถือ เชื่อมั่น และพร้อมที่จะเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต การเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ ICN มากยิ่งขึ้น และเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในระยะยาว นอกจากนี้ ราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 1.84 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่น่าสนใจ หากนักลงทุนที่พลาดวันจองซื้อหุ้นไอพีโอ สามารถเข้ามาซื้อหุ้นบนกระดานได้ โดยจะเข้าเทรดวันแรกวันที่ 15 กันยายนนี้ ICN จะเป็นหุ้น Growth Stock มั่นใจไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวังอย่างแน่นอน" นายสมภพ กล่าว
ด้านนายมนชัย มณีไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส จำกัด (มหาชน) หรือ ICN กล่าวว่า หุ้นไอพีโอของบริษัทฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ เนื่องจาก ICN ถือเป็นผู้ให้บริการรับเหมาวางระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่ครบวงจร ครอบคุลมทั้งการให้บริการบำรุงรักษาและการจำหน่ายอุปกรณ์ทดแทน แม้ ICN จะเป็นบริษัทฯ เล็กเมื่อเทียบกับบริษัทฯ อื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่เป็นบริษัทฯ ที่มีศักยภาพ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างความเชื่อมั่น อีกทั้งสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
"ในฐานะผู้บริหารบริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นไอพีโอเข้ามาเป็นจำนวนมาก สะท้อนว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการเติบโตของธุรกิจ การเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ จะทำให้ ICN เข้าถึงแหล่งเงินทุน และสามารถเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตามแผนที่วางไว้ และมั่นใจทีมผู้บริหารจะดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาลควบคู่กับการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น เชื่อว่าเมื่อ ICN เข้าซื้อขายเป็นวันแรกในวันที่ 15 ก.ย.นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน" นายมนชัย กล่าว
นายมนชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ 220.80 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และรุกตลาดธุรกิจรับเหมาวางระบบอย่างครบวงจร ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยเงินทุนหมุนเวียนเพื่อสร้างโอกาสในการรับงานที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ทั้งต่อสถาบันการเงิน คู่ค้าธุรกิจ ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก รวมทั้งลูกค้าทั้งภาครัฐ และเอกชน ซึ่งจะช่วยให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่งและโดดเด่นต่อไป