กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--บีโอไอ
บีโอไอให้การส่งเสริมการลงทุนกิจการวิจัยพัฒนาและผลิตยาชีววัตถุ สำหรับรักษาโรคมะเร็ง รูมาตอยด์ ภูมิแพ้ สะเก็ดเงิน พร้อมร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อทำการวิจัยพัฒนา ถ่ายทอดเทคโนโลยี และพัฒนาการผลิต ถือเป็นโครงการแรกที่ได้รับส่งเสริมตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ โครงการ แรกที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ 10 ปี
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมาย ได้พิจารณาให้การส่งเสริมแก่กิจการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อผลิตเภสัชชีววัตถุ แก่บริษัท เอบินิส จำกัด ซึ่งเป็นกิจการของคนไทย ถือหุ้นโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ซึ่งร่วมมือกับบริษัท ซิมับ จำกัด บริษัทภายใต้การดูแลของรัฐบาลประเทศคิวบาและเป็นผู้ผลิตยากลุ่มชีวเภสัชภัณฑ์ (BIOPHARMACEUTICALS) ชั้นนำ ของโลก เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,266 ล้านบาท
โครงการนี้เป็นการวิจัยพัฒนาและผลิตเภสัชชีววัตถุและยาชีววัตถุในกลุ่มโมโนโคลนอล แอนติบอดี (Monoclonal Antibody) ที่ผลิตจากเซลล์สัตว์และยังไม่เคยมีการผลิตในประเทศไทยมาก่อน เพื่อใช้สำหรับรักษาโรคในคน ได้แก่ โรคมะเร็ง (มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้) และโรคแพ้ภูมิตัวเอง (โรครูมาตอยด์ โรคภูมิแพ้ และโรคสะเก็ดเงิน)
"ยาชีววัตถุส่วนใหญ่เป็นโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในร่างกาย มีหน้าที่ในการควบคุมระบบต่างๆ ในร่างกาย และสามารถบำบัดรักษาอาการผิดปกติต่างๆ ได้ จึงสามารถรักษาอาการป่วยต่างๆได้โดยการฉีดยาชีววัตถุเข้าสู่ร่างกายผู้ป่วย ยาชีววัตถุบางกลุ่มก็สามารถรักษามะเร็งได้อย่างจำเพาะเจาะจง ทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็ง และไม่ได้ออกฤทธิ์ต่อเซลล์ทุกชนิดในร่างกายเหมือนยาเคมีบำบัดในรุ่นเดิมๆ แต่ยา ในกลุ่มนี้เป็นยาสมัยใหม่ จึงมีราคาสูงมาก และที่สำคัญโครงการนี้มีจะมีการวิจัยพัฒนาและผลิตยาชีววัตถุต้นแบบหนึ่งรายการ ที่สามารถใช้รักษาโรคแพ้ภูมิตนเองที่ทำงานโดยหยุดการโจมตีของเซลล์เม็ดเลือดขาวไม่ให้ไปทำลายเซลล์ปกติอื่นๆ ด้วยกลไลการออกฤทธิ์แบบใหม่ โดยคนไข้สามารถนำมาฉีดเองที่บ้านได้ ถือว่าเป็นยาต้นแบบครั้งแรกของโลก ที่มีการทำงานในลักษณะดังกล่าวและสะดวกต่อการใช้งาน ไม่ต้องไปโรงพยาบาล" นางสาวดวงใจกล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่า โครงการนี้เป็นการผลิตยาแนวใหม่โครงการแรกในประเทศไทย ช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงตัวยาชีววัตถุของผู้ป่วยในประเทศไทย ช่วยยกระดับเทคโนโลยี และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการลดการนำเข้าและเพิ่มการส่งออกยาชีววัตถุในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลเพื่อสร้างบุคคลากรที่มีคุณภาพ การวิจัยพัฒนา ขั้นตอนการผลิต สูตรการผลิต และการควบคุมการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงพิจารณาให้การส่งเสริม และให้ได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงถึง 10 ปี เป็นโครงการแรกด้วย