กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--อินโฟเฟด
เปิดตัวสามแพลตฟอร์มวีอาร์ใหม่ในงาน Thailand Digital Big Bang 2017 คาด โต 10 เท่าในปีนี้
บริษัท อินโฟเฟด จำกัด ผู้นำเทคโนโลยีคอนเทนต์เสมือนจริงในประเทศไทย (Virtual Reality Content) ประกาศ VR คือคอนเทนต์แห่งอนาคต เล็งเห็นโอกาสเติบโตในตลาดไทย เปิดตัวสามแพลตฟอร์ม วีอาร์ ครอบคลุมทุกประเภทธุรกิจ โดยเฉพาะ อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว และการศึกษา ที่งาน Thailand Digital Big Bang 2017 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ภายใต้แนวคิด Digital Transformation Thailand ที่งาน Thailand Digital Big Bang 2017 อินโฟเฟด ได้เปิดตัวสามแพลตฟอร์ม VR คอนเทนต์ ที่ใช้เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลเชิงภาพและการสร้างสรรค์แบบเสมือนจริงรอบด้าน นำเสนอเนื้อหาให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ หรือบริการของแต่ละกลุ่มธุรกิจ โดยแพลตฟอร์มที่เปิดตัว ได้แก่Infofed Real Estate บริการ VR คอนเทนต์ที่จะกลายมาเป็นเครื่องมือทางการขาย (Sales tools) รูปแบบใหม่ พัฒนาเฉพาะเพื่อกลุ่มตลาดอสังหาริมทรัพย์ ให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าชมห้องตัวอย่างบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ทั้งโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต ได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา
Infofed 360 สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่จะเปิดมิติใหม่แห่งการท่องเที่ยว ด้วยการผสมผสานบรรยากาศจำลอง (Simulator) เข้ากับรายละเอียดสถานที่นั้นๆ นวัตกรรมดังกล่าว อินโฟเฟดเล็งเห็นโอกาส และพัฒนาจากแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ "ไทยแลนด์ 4.0" ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ตอบรับสนับสนุนให้การสร้างวิสาหกิจและสตาร์ทอัพด้านท่องเที่ยว บนพื้นฐานของนวัตกรรม เป็นหนึ่งในกลไกแนวทางการท่องเที่ยวสู่ยุค 4.0
Infofed U แพลตฟอร์ม VR คอนเทนต์เพื่อการศึกษา ที่ทางอินโฟเฟดมุ่งสร้างสรรค์เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาง่ายขึ้นจากบรรยากาศจำลอง อย่าง พิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่ และการจำลองสถานที่สำคัญโดยไม่ต้องไปสถานที่จริง นอกจากนี้ Infofed U ยังมีส่วนช่วยกระจายการเข้าถึงข้อมูลสำหรับนักเรียน นักศึกษาในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าถึงเนื้อหาได้มากขึ้นอีกด้วย
"การพัฒนานวัตกรรม VR คอนเทนต์ ทั้งสามแพลตฟอร์มหลักของอินโฟเฟด ตอบรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล เพื่อการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้กลายเป็นเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับยุคดิจิทัลมากขึ้น" นายจิรยศ เทพพิพิธ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท อินโฟเฟด กล่าวถึงกระแสเทคโนโลยี VR จากทั่วโลกและในประเทศไทยที่งาน Thailand Digital Big Bang 2017
"บริษัท อินโฟเฟด เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี VR ที่แม้จะได้รับความนิยมและมีแนวโน้มเติบโตสูงทั่วโลก แต่สำหรับในประเทศไทย กลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังรับรู้และเข้าใจเทคโนโลยี VR จากอุตสาหกรรมเกมและบันเทิง ซึ่งทางอินโฟเฟด มองว่าช่องว่างตรงนี้ถือเป็นโอกาสที่จะเข้ามาพัฒนาประสบการณ์เสมือนจริงในรูปแบบต่างๆ ให้กับกลุ่มธุรกิจอื่น ซึ่งจะสร้างอัตราการเติบโตให้กับบริษัทสูงถึง 10 เท่า"
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจสตาร์ทอัพได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ของยุคดิจิทัล (Digital Disruption) โดยเทคโนโลยี VR ก็เป็นหนึ่งในนั้น ศูนย์วิจัยข้อมูลไอดีซี (International Data Corporation) ได้คาดการณ์การลงทุนของตลาดโดยรวมทั่วโลกต่อเทคโนโลยี AR/VR ภายในปี 2560 ว่าจะมีรายได้รวมสูงถึง 13 พันล้านเหรียญสหรัฐ นับว่าเพิ่มกว่า 130.5% จากปีที่แล้ว และคาดว่าจะมีอัตราการลงทุนสูงอย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า รวมรายได้ทั้งหมดภายในปี 2563 น่าจะสูงถึง 143.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ตลอดระยะเวลาเกือบสามปีที่ผ่านมา อินโฟเฟดได้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้าน VR กับพาร์ทเนอร์หลักในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจการเงิน รวมทั้งได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจจากประเทศสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ ในการเปิดตัวแพลตฟอร์ม VR คอนเทนต์ ในครั้งนี้