กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--สยาม เอาท์เลต
สยาม เอาท์เลต ผู้ให้บริการคลังสินค้าและโลจิสติกส์สำหรับองค์กรธุรกิจและร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจร จับมือพันธมิตรเสริมความแข็งแกร่งให้ครอบคลุมทุกด้าน ตอบโจทย์เทรนด์ความต้องการที่หลากหลายของผู้ค้า ตั้งเป้าเติบโต 300% คาดสิ้นปีมีสินค้ามากกว่า 50,000 SKUs จากร้านค้าออนไลน์กว่า 400 ราย
ตั้งแต่ต้นปี เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีแห่งอีคอมเมิร์ซอย่างแท้จริง บรรดายักษ์ใหญ่ระดับโลกต่างก็ตบเท้าเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดในประเทศกันอย่างคึกคัก ดังนั้น ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซ ก็ได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของตลาดในปีนี้ รวมถึง สยาม เอาท์เลต ที่ให้บริการธุรกิจอีฟูลฟิลเมนต์ (e-Fulfilment) ทั้งการจัดการคลังสินค้า แพ็คสินค้า และส่งสินค้าอย่างครบวงจร
นางสาวพิมพ์ฐดา สหัชอติเรกลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยาม เอาท์เลต จำกัด กล่าวว่า "จากภาพรวมการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในไทยปีนี้ เราคาดการณ์ว่า ภายในสิ้นปี 2560 จะมีสินค้ามากกว่า 50,000 SKUs จากร้านค้าออนไลน์กว่า 400 ราย มาใช้บริการของเรา และมีจำนวนสินค้าที่ส่งออกจากโกดังรวม 235,000 ออเดอร์ คิดเป็นยอดเฉลี่ยต่อเดือนถึง 20,000 ออเดอร์"
สยาม เอาท์เลต ได้รับความไว้วางใจจากร้านค้าออนไลน์ทั้งรายย่อย รายใหญ่และสินค้าแบรนด์ต่าง ๆ มาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปีที่แล้วที่มี 100 ราย และเพียงครึ่งปีแรกของ 2560 ได้เพิ่มมาถึง 200 ราย ด้วยความพร้อมของการให้บริการจากทีมงานมืออาชีพ มีขั้นตอนกระบวนการทำงานที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบซอฟท์แวร์บริหารจัดการหลังร้านที่ออกแบบมาให้เหมาะกับแต่ละประเภทร้านค้า ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกประเภทธุรกิจ ด้วยขนาดของคลังสินค้าที่กว้างขวางถึง 3,600ตารางเมตร บวกกับศักยภาพของทีมงานและระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย สยาม เอาท์เลต สามารถรองรับธุรกิจร้านค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ถึงขนาดย่อมได้มากกว่า 1,000 ราย
"นอกจากนี้ ช่วงปลายปีน่าจะเป็นช่วงที่มีการแข่งขันดุเดือดที่สุด โดยทั่วไปไตรมาสสุดท้ายถือเป็นช่วงโอกาสทองของธุรกิจอีคอมเมิร์ซทุกประเทศ บรรดาธุรกิจร้านค้าต่าง ๆ จะเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่ประมาณเดือนสิงหาคมและกันยายนไม่ว่าจะเป็น การออกแบบแคมเปญ การออกโปรโมชั่นลดราคาตามเทศกาล การจ้างพนักงานเพิ่มเพื่อช่วยดูแลคลังสินค้า และอื่น ๆ เพื่อเตรียมดันยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่มีโอกาสจะเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่าตัว" คุณพิมพ์ฐดา กล่าวเสริม
ล่าสุด สยาม เอาท์เลต ได้จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจด้านโลจิสติกส์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการ Supply Chain ให้กับองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มบริการด้านการบริหารและจัดการคลังสินค้าทั้งในรูปแบบขายส่ง (Big-Box/Wholesale Fulfillment) และรูปแบบค้าปลีก (Retail Fulfillment) รวมถึงได้พัฒนา Fleet Management Platform ที่ช่วยให้ สยาม เอาท์เลต สามารถดึงผู้ให้บริการขนส่งต่าง ๆ ทั่วประเทศที่มีศักยภาพมารวมเป็นเครือข่ายการจัดส่งสินค้าขนาดใหญ่สำหรับอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะอีกด้วย
สำหรับส่วนบริการแบบ Same Day และ Next Day Delivery สยาม เอาท์เลต ได้ร่วมกับ honestbee (ออนเนสบี) ที่จะช่วยส่งพัสดุได้อย่างรวดเร็วทันใจผู้รับ และสุดท้าย ได้จับมือกับ e-LogiT (อีโลจิสต์) บริษัทผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์สำหรับอีคอมเมิร์ซ อันดับ 1สัญชาติญี่ปุ่น เพื่อช่วยให้ผู้ค้าชาวไทยสามารถเข้าถึงตลาดญี่ปุ่นอย่างสะดวกง่ายดาย
"เราตั้งใจว่าจะมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการของ สยาม เอาท์เลต ให้สามารถตอบรับทุกความต้องการของธุรกิจอีคอมเมิร์ซยุคใหม่ ทั้งรูปแบบ B2B และ B2C ด้วยทำเลที่ตั้งของคลังสินค้าที่อยู่ย่านพระราม 3 ซึ่งห่างจากสาทรเพียงแค่ 10 นาที เรามีทีมงานมืออาชีพที่บริการด้วยความเอาใส่ใจ พร้อมให้บริการด้วยความเป็นกันเองแบบเพื่อนดูแลเพื่อน มีกระบวนการและขั้นตอนที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งเทคโนโลยีที่เราใส่ใจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจร้านค้าออนไลน์ ใช้งานได้ง่าย สะดวกสบาย นอกจากนี้เรายังมีบริการเสริมและพันธมิตรทางธุรกิจอีกมากมาย ที่พร้อมให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือ ให้ผู้ค้าออนไลน์รู้สึกอุ่นใจว่า ไม่ได้ทำธุรกิจแบบคนเดียวลำพังอีกต่อไป" คุณพิมพ์ฐดา กล่าวทิ้งท้าย