กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--ปอร์เช่ ประเทศไทย
สปอร์ต ทัวริสโม่ plug-in ไฮบริด (Sport Turismo plug-in hybrid) ที่ทรงพลังที่สุด
ปอร์เช่เพิ่มทางเลือกอีกระดับให้แก่ยนตกรรมไฮบริด ประจำการระบบขับเคลื่อน plug-in ไฮบริด สมรรถนะสูงให้แก่ พานาเมร่า สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Sport Turismo) ในชื่อว่า พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ รุ่นใหม่ (the new Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo) เรือธงลำใหม่ประจำอนุกรม สปอร์ตซีดานพันธุ์หรู ผสานขุมกำลังเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาดความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ประสิทธิภาพสูง ผลลัพธ์จากการทำงานร่วมกันของ 2 ระบบขับเคลื่อน ให้พละกำลังสูงสุดถึง 680 แรงม้า (500 กิโลวัตต์) ทันทีที่เข็มวัดตวัดขึ้นจากรอบเดินเบา แรงบิดระดับมหาศาลกว่า 850 นิวตันเมตรของพานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) ก็พร้อมตอบสนองอย่างเต็มสมรรถนะ ทั้งหมดทั้งมวลข้างต้นหมายถึงอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง ไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 3.4 วินาที ทะยานทะลุเพดานความเร็วสูงสุดกว่า 310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้ประสิทธิภาพในการประหยัดอย่างน่าอัศจรรย์ด้วยอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามมาตราฐาน New European Driving Cycle (NEDC) ที่ 33.3 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 3.0 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ยิ่งไปกว่านั้น สปอร์ต ทัวริสโม่ (Sport Turismo) ที่ทรงพลังที่สุดคันนี้ ยังสามารถวิ่งโดยใช้พลังงาน ไฟฟ้าขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว เป็นระยะทางสูงสุดถึง 49 กิโลเมตร ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะไม่มีการปล่อยมลภาวะออกมาแม้แต่น้อย ไม่เพียงแต่ดุลยภาพระหว่างสมรรถนะและประสิทธิภาพเท่านั้นที่ทำให้ พานาเมน่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Turbo S E-Hybird Sport Turismo) สามารถก้าวขึ้นครองบัลลังก์ยานยนต์แกรนด์ทัวริ่งระดับหรูได้อย่างเต็มภาคภูมิ แต่ยังหมายรวมถึงความพิเศษอื่นๆ ที่ปอร์เช่บรรจงสร้างสรรค์เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรงท้ายขนาดใหญ่ บรรทุกสัมภาระได้อย่างสะดวกสบาย จากการลดความสูงของขอบฝาท้าย ปรับเปลี่ยนรูปแบบห้องโดยสารเพื่อเพิ่มปริมาตรความจุห้องเก็บสัมภาระและ พร้อมรองรับผู้โดยสารเต็มพิกัดถึง 4+1 ที่นั่ง นี่คือรุ่นสูงสุดของตระกูลยนตกรรมสปอร์ตซาลูนสายพันธุ์หรู ยานยนต์ผู้กำหนดบรรทัดฐานใหม่ในแง่ของอรรถประโยชน์จากการใช้งานในชีวิตประจำวัน ปอร์เช่ประสานเอกลักษณ์ ในงานออกแบบดีไซน์ให้เป็นหนึ่งเดียวกับอัจฉริยภาพของความสะดวกสบายและที่สำคัญยังคงรักษาเอาไว้ซึ่งสมรรถนะ การขับขี่และประสิทธิภาพสูงสุดไม่เปลี่ยนแปลง
0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.4 วินาที ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง 33.3 กิโลเมตรต่อลิตร (3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร)
ในฐานะเดียวกับเรือธงรุ่นสูงสุดของตระกูลสปอร์ตซาลูนของ พานาเมร่า (Panamera) ปอร์เช่ตั้งใจที่จะบรรลุแหล่งกำเนิดพลังขับเคลื่อนที่ให้สมรรถนะชั้นเลิศจากนวัตกรรมเทคโนโลยีไฮบริดลงในตัวถังของ สปอร์ต ทัวริสโม่ (Spot Turismo) เช่นกัน ทุกยุทธศาสตร์การพัฒนายนตกรรมล้ำสมัยจากสายการผลิตได้รับการนำมาประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ใน พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo) ที่ถ่ายทอดความเป็นเลิศมาจากรถซูเปอร์สปอร์ต ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder) เครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ (550 แรงม้า/404 กิโลวัตต์) ทำงานร่วมกับชุดมอเตอร์ไฟฟ้า (136 แรงม้า/100 กิโลวัตต์) ก่อกำเนิดแรงบิดสูงสุดถึง 850 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบการทำงานเพียง 1,400 รอบต่อนาทีเท่านั้น อุปกรณ์ decoupler ติดตั้งรวมอยู่กับ hybrid module ทำงานด้วยระบบ electromechanically ตัดต่อกำลังผ่านชุดคลัทช์ไฟฟ้า หรือ Electric Clutch Actuator ให้อัตราการตอบสนองที่รวดเร็วและนุ่มนวลยิ่งขึ้นอีกขั้น ระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่ 8 จังหวะ Porsche Doppelkupplung (PDK) เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ฉับไว แม่นยำ ภายในระยะเวลาเพียง 3.4 วินาที พุ่งทะยานต่อเนื่องไปแตะหลักความเร็วที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 8.5 วินาทีเต็มพิกัด ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึงแม้ยานยนต์ plug-in ไฮบริด คนนี้จะเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะเหนือระดับ แต่ผลการทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมันเชื่อเพลิงตามมาตราฐาน New European Driving Cycle กลับให้ความประหยัดที่ไม่น่าเชื่อด้วยตัวเลขเพียง 33.3 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 3.0 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร และมีอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 17.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo) ยอดเยี่ยมด้วยพิสัยการเดินทางสูงสุดถึง 49 กิโลเมตรพร้อมความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียวหรืออาจกล่าวได้ว่าในสภาวะดังกล่าว นี่คือยานยนต์ไร้มลภาวะอย่างแท้จริง แบตเตอรี่ชนิด lithium-ion ศักยภาพสูงสามารถบรรจุพลังงานได้ถึง 14.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง และชาร์จคืนกลับจนเต็มภายในระยะเวลาตั้งแต่ 2.4 ถึง 6 ชั่วโมงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชุดอุปกรณ์เชื่อมต่อ
อัตลักษณ์แห่งงานดีไซน์ สปอยเลอร์หลังคาปรับระดับอัตโนมัติ ห้องโดยสาร 4+1 ที่นั่งแนวคิดใหม่
พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo) คือศูนย์รวมเทคโนโลยีล้ำอนาคตทั้งหมดของสปอร์ตซีดานเจเนอเรชั่นที่ 2 ประกอบด้วย ระบบควบคุมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นล่าสุด Porsche Advanced Cockpit ระบบช่วยเหลือการขับขี่อันยอดเยี่ยม อาทิ Porsche InnoDrive ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ adaptive cruise control และ ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง หรือ rear-axle steering เป็นอุปกรณ์พิเศษติดตั้งเพิ่มเติม รวมไปถึงสปอยเลอร์หลังคาปรับระดับอัตโนมัติ อันเป็นนวัตกรรมสุดพิเศษที่มีเพียงพานาเมร่า (Panamera) เท่านั้น ทั้งนี้ตำแหน่งของสปอยเลอร์หลังคาปรับระดับอัตโนมัติจะทำงานในสภาวการณ์ที่แตกต่างกัน 3 รูปแบบ โดยการปรับองศานั้นขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่และการปรับตั้งจากแผงควบคุมในขณะนั้น ด้วยศักยภาพชั้นเลิศที่ สามารถสร้างแรงกดท้ายรถสูงสุดได้มากกว่า 50 กิโลกรัม เมื่อวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อุปกรณ์ชิ้นนี้ยังสามารถทำหน้าที่ลดแรงต้านอากาศ ด้วยการปรับมุมการทำงานไปยังตำแหน่ง -7 องศา ผลลัพธ์คือ อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น และในระดับความเร็วที่สูงกว่า 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สปอยเลอร์หลังคาจะ ปรับมุมการทำงานไปที่ +1 องศาหรือตำแหน่ง "Performance" โดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มเสถียรภาพและยึดเกาะ ในแนวราบ ทั้งนี้ในกรณีที่เลือกใช้งานรูปแบบการขับขี่ "Sport" และ "Sport Plus" สปอยเลอร์หลังคาจะได้รับ การปรับตั้งมายังตำแหน่งนี้ที่ระดับความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือสูงกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ระบบ PAA ยังสามารถทำหน้าที่ได้ด้วยการปรับตำแหน่งไปที่ 26 องศา ในกรณีที่เปิดหลังคาพาโนรามิก ขณะวิ่งด้วยความเร็ว 90 กิโลเมตรหรือสูงกว่า สปอยเลอร์หลังคาจะช่วยลดเสียงรบกวนจากอากาศภายนอกให้เหลือน้อยที่สุด
โดยภาพรวมแล้ว สปอร์ต ทัวริสโม่ รุ่นใหม่ (the new Sport Turismo) คือผลลัพธ์ของการออกแบบอย่างทันสมัย ละเมียดละไม แนวหลังคาที่ลากยาวต่อเนื่องจรดท้ายรถ เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นสปอร์ต ซาลูนนั้น มีส่วนช่วยให้ การเข้าถึงและออกจากห้องโดยสารตอนหลัง เป็นไปด้วยความสะดวกสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ เหนือศีรษะและพื้นที่วางเท้าสำหรับผู้โดยสารตอนหลังได้เป็นอย่างมาก อรรถประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มเติมจากบาน ฝากระโปรงท้ายขนาดใหญ่ซึ่งสามารถเปิดกว้างด้วยระบบไฟฟ้าและขอบของพื้นที่บรรทุกที่วางตัวสูงจากพื้นเพียง 628 มิลลิเมตร อีกสิ่งหนึ่งที่เพิ่มเติมในพานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo) คือเบาะนั่งตอนหลังที่สามารถใช้งานในแบบ 2+1 นั่นเอง และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ พานาเมร่า รุ่นใหม่ (the new Panamera) คันนี้ กลายเป็นยนตกรรม 4+1 ที่นั่งได้อย่างเต็มภาคภูมิ อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ พานาเมร่า สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Sport Turismo) สามารถเลือกสั่งติดตั้งเบาะนั่งคู่หลังแบบแยกอิสระ ปรับระดับด้วยไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์พิเศษ คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของซาลูนสุดแรง 4 ที่นั่งได้ตามต้องการ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo) มีปริมาตรความจุห้อง เก็บสัมภาระ ท้ายที่ 425 ลิตร เบาะที่นั่งตอนหลังสามารถพับราบลงกับพื้นอย่างสมบูรณ์หรือแยกพับในสัดส่วน 40:20:40 ผ่านสวิทช์ ปลดล็อคระบบไฟฟ้าภายในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ เมื่อคิดจากพื้นรถจรดแนวหลังคา ปริมาตราความจุเพิ่มขึ้นสูงสุด ถึง1,295 ลิตร
เพิ่มเติมอุปกรณ์มาตราฐานพร้อมติดตั้งระบบเบรกเซรามิก
ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Porsche Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo) พร้อมรับคำสั่งซื้อแล้ว ทั้งนี้อุปกรณ์มาตราฐานที่ได้รับการเพิ่มเติมได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวด้วยอิเล็กทรอนิกส์ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC Sport) ระบบ roll stabilisation พร้อมระบบควบคุมแรงบิด Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) ชุดเฟืองท้ายแบบ differential lock, ระบบเบรกเซรามิก สมรรถนะสูง Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB), ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ลาย 911 turbo, ระบบพวงมาลัย Power Steering Plus, ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะสปอร์ต โครโน (Sport Chono Package) และระบบปรับอากาศ auxiliary air conditioning เช่นเดียวกับ พานาเมร่า สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Sport Turismo) ทุกคันซึ่งมีพละกำลัง 440 แรงม้า (324 กิโลวัตต์) ขึ้นไป รุ่นสูงสุดของสายพันธุ์สปอร์ตซีดานพลังแรงจะได้รับการติดตั้งระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติเทคโนโลยีล่าสุด adaptive three-chamber air suspension พร้อมระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) ส่วนผสมอันสุดแสนลงตัวระหว่างสมรรถนะการบังคับควบคุมสไตล์สปอร์ตและความนุ่มนวลสะดวกสบายในการโดยสารตลอดการเดินทาง
ติดตามภาพประกอบเนื้อหาข่าวได้ที่ Porsche Newsroom (newsroom.porsche.com) และฐานข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชนที่ Porsche Press Database (presse.porsche.de)
อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและอัตราการปล่อยไอเสีย
ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Porsche Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 33.3 กิโลเมตร ต่อลิตร หรือ 3.0 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 17.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 69 กรัมต่อกิโลเมตร