กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--เอบีเอ็ม
ดร. เชียง ฮี ตัน กรรมการบริหารของครอปไลฟ์ เอเชีย ได้ออกแถลงการณ์สืบเนื่องจากการเคลื่อนไหวของเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thailand Pesticide Alert Network หรือ Thai-PAN) ที่จำกัดมิให้เกษตรกรสามารถใช้แนวทางการปกป้องพืชผลที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพได้ (safe and effective crop protection) ดังนี้
"พี่น้องเกษตรกรไทยในขณะนี้กำลังประสบกับเงื่อนไขและอุปสรรคมากมาย เนื่องจากพวกเขาต้องผลิตพืชผลให้เพียงพอรองรับการบริโภคที่เพิ่มขึ้นด้วยทรัพยากรที่ลดน้อยถดถอยลง รวมทั้งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากในปัจจุบัน"
"และในฐานะที่เราเป็นองค์กรหนึ่งในห่วงโซ่คุณค่าการผลิตอาหาร เราก็ต้องมีหน้าที่ดูแลและให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องเกษตรกรไทยและในภูมิภาค ให้สามารถรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ให้ได้ เพื่อการผลิตพืชผลต่าง ๆ มาหล่อเลี้ยงผู้คนในทั้งภูมิภาค รวมถึงบนโลกใบนี้ และช่วยให้พวกเขารวมถึงครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ต้องช่วยกัน"
"เรารู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ที่ไม่ได้อ้างอิงจากข้อเท็จจริงเป็นหลัก มิได้ให้ความสำคัญต่อเกษตรกรไทยเป็นอันดับแรก"
"เมื่อเดือนที่แล้ว เกษตรกรไทยจากที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ประกาศชัดเจนอย่างหนักแน่นเป็นเสียงเดียวกัน ในการเรียกร้องการเข้าถึงเทคโนโลยีการปกป้องพืชผลมากขึ้น มิใช่การขอทางเลือกที่น้อยลง ซึ่งในยุคแห่งศตวรรษที่ 21 เช่นนี้ พวกเขาต้องต่อสู้กับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ความแห้งแล้งที่รุนแรงขึ้น น้ำท่วม ศัตรูพืช วัชพืช และโรคภัยต่าง ๆ พวกเขาจึงต้องการตัวช่วยที่สอดคล้องกับยุคศตวรรษที่ 21 ที่มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และมีนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เท่าทัน"
"ดังนั้น การปฏิเสธทางเลือกมิให้เกษตรกรมีทางเข้าถึงตัวช่วยที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ จึงก่อให้เกิดผลเสียหายทั้งด้านความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรเอง รวมทั้งความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ"
"ครอปไลฟ์ เอเชีย ในฐานะพันธมิตรและผู้ร่วมอุดมการณ์กับรัฐบาลไทยในการสร้างความยั่งยืน ความปลอดภัยและมั่นคงแก่ห่วงโซ่อุปทานอาหารของประเทศ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พันธมิตรและผู้ที่เกี่ยวข้องจากภาครัฐและทุกภาคส่วน จะตระหนักว่าข้อมูลจากเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืชนั้น ผิดเพี้ยนจากความเป็นความจริง และพิจารณาถึงหลักวิทยาศาสตร์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องผลผลิตที่ได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว และให้ความสำคัญกับเกษตรกรไทยเป็นอันดับแรก"
"เรายังคงมุ่งมั่นในการสนับสนุนเกษตรกรไทยต่อไป และหวังว่าจะได้ร่วมทำงานและหารือกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ในการสนับสนุนพี่น้องชาวเกษตรกร"