กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
พลัสฯ แสดงศักยภาพเจ้าตลาดบริหารโครงการคอนโดมิเนียม ยอดขายทะลุเป้า !!! ล่าสุดจับมือพันธมิตรเสนอ Plus Interior Package เอาใจลูกค้าหลังการขาย
- หลังประสบความสำเร็จจากโปรโมชั่น “สวยครบชั้น จ่ายเพียงครึ่ง” กับตลาดทาวน์เฮ้าส์ทุกทำเล -
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ รุกตลาดบริหารโครงการ หลังประสบความสำเร็จจากการขายคอนโดมิเนียมในเขตใจกลางเมืองทุกทำเลรวม 126 ยูนิต มูลค่าถึง 450 ล้านบาท จัดแพคเกจโปรโมชั่นหลังการขาย “Plus Interior Package” เอาใจลูกค้าตลาดคอนโดมิเนียม แถมโปรแกรมทำความสะอาดห้อง และล้างแอร์ฟรี 1 ปีทันทีที่เลือกใช้แพคเกจ โดยนำร่องโครงการพลัส 67 เป็นที่แรก และจะนำเสนอต่อลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมของพลัสทุกโครงการภายในปี 2548 เผยได้แรงหนุนจากกลุ่มพันธมิตรชั้นแนวหน้าแบบเต็มร้อย หลังลูกค้าตลาดทาวน์เฮ้าส์ทุกทำเลเลือกใช้โปรโมชั่นที่จัดให้เกินเป้า
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจบริหารโครงการแบบครบวงจรชั้นแนวหน้าของไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีจำนวนโครงการคอนโดมิเนียมในเขตใจกลางเมืองเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพื่อตอบรับกำลังซื้อที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะเปิดตัวเพิ่มขึ้นอีกในช่วงครึ่งปีหลัง 2548 ในส่วนของบริษัทฯ เอง พบว่ายอดขายคอนโดมิเนียมในไตรมาสแรกของ 2548 พุ่งทะลุเป้า จากเดิมเฉพาะโครงการที่พลัสพัฒนาเองนั้น เราตั้งเป้ายอดขายไว้ 77 ล้านบาท แต่เกินความคาดหมายเป็นอย่างมากเพราะเราสามารถขายได้ มากถึง 66 ยูนิต รวมมูลค่ากว่า 185 ล้านบาท สูงเกินเป้าที่ตั้งไว้ถึง 140% ส่วนโครงการที่เรารับบริหารงานขาย สามารถทำยอดขายได้มากถึง 60 ยูนิต มูลค่ารวม 262 ล้านบาท ภาพรวมเฉพาะไตรมาสแรกนี้คอนโดทุกโครงการของเราทั้งที่เราพัฒนาเอง และที่เรารับบริหารงานขายนั้น ยอดขายรวมทั้งสิ้น 126 ยูนิต รวม 450 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าของโครงการคอนโดมิเนียมของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ที่พัฒนาขึ้นจนถึงปัจจุบันมีทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ยูนิต จาก 6 โครงการ ได้แก่ พลัส 38, พลัส 67, สุขุมวิท พลัส, 49 พลัส, เดอะ โฟร์ตี้ไนน์ พลัส 2, สาทร พลัส มูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท โดยแต่ละโครงการมีความคืบหน้าดังนี้ โครงการ พลัส 38 สร้างเสร็จ-โอน 100% แล้ว สำหรับโครงการที่กำลังเริ่มโอนได้แก่ โครงการ พลัส 67 ซึ่งเริ่มทยอยโอนมาแล้วตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน
โครงการสุขุมวิท พลัส ซึ่งถือเป็น High-Rise Condominium หนึ่งเดียวของพลัส มีความคืบหน้าอย่างมากจากไตรมาสที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนจากโครงสร้างอาคารที่ก่อสร้างไปจนถึงชั้น 11 สำหรับอาคาร A ในขณะที่อาคาร B กำลังเร่งการก่อสร้างจนถึงชั้น 7 และกำลังทยอยสร้างในส่วนงานสถาปัตยกรรมและงานระบบทั้ง 2 อาคาร โดยภาพรวมโครงการมีความคืบหน้าไปแล้วถึง 27% โครงการ 49 พลัส คอนโดมิเนียมแห่งแรกของพลัสในซอยสุขุมวิท 49 มีความคืบหน้าในส่วนของงานโครงสร้างแล้วเสร็จ 100% ในขณะที่งานสถาปัตยกรรมภายในคืบหน้าไปแล้วถึงชั้น 7 และงานระบบต่างแล้วเสร็จถึงชั้น 9 เริ่มงานดำเนินการสถาปัตยกรรมภายนอก และตกแต่งภายใน รวมถึงงานภูมิสถาปัตย์ ความคืบหน้าโดยรวมของทั้งโครงการอยู่ที่ 76% คาดว่าจะเริ่มดำเนินการขออนุญาตเปิดใช้อาคารในเดือนพฤษภาคม 48 และจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ในเดือนสิงหาคม 48 โครงการเดอะ โฟร์ตี้ไนน์ พลัส 2 คอนโดมิเนียมแห่งที่ 2 ของพลัสในซอยสุขุมวิท 49 เร่งดำเนินการก่อสร้าง จนส่วนของงานโครงสร้างแล้วเสร็จ ปัจจุบันทีมก่อสร้างกำลังดำเนินการในส่วนของสถาปัตยกรรมภายใน รวมถึงงานระบบต่างๆ โครงการมีความคืบหน้าโดยรวมไปแล้วเกือบ 50% คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ประมาณเดือนตุลาคม 48 และสุดท้ายโครงการสาทร พลัส — ออน เดอะ พอนด์ คอนโดมิเนียม Low-Rise ท่ามกลางสวนสวยสไตล์ Tropical Garden บนถนนเย็นอากาศ ดำเนินการก่อสร้างในส่วนของงานโครงสร้างและเทพื้นไปถึงชั้น 7 แล้ว ภาพรวมโครงการมีความคืบหน้าไปแล้วถึง 32% คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2549
“เราคือผู้นำในตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลางในเขตใจกลางเมืองอย่างแท้จริง แม้ว่าเราจะเริ่มในส่วนธุรกิจพัฒนาโครงการมาได้ประมาณ 3-4 ปี ก็ตาม แต่สาเหตุที่ทำให้กลุ่มลูกค้าให้การยอมรับในทุกโครงการของเรานั้น ผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่เราให้บริการแบบครบวงจร ซึ่งหนึ่งในนั้นได้แก่ บริการด้านบริหารโครงการซึ่งปัจจุบันเราถือเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจดังกล่าว เพราะเรามีการวิจัยความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังมีการพัฒนาคุณภาพระบบการบริหารงานตลอดจนศักยภาพของบุคลากรในการให้บริการที่สมบูรณ์แบบ ทำให้สิ่งต่างๆ ที่เรานำเสนอสู่ลูกค้าได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมตลอดมา ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราลองพิจารณาตลาดรวมด้านการขายโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลางในเขตใจกลางเมืองที่ปัจจุบันมีจำนวนมากให้ลูกค้าได้รอเลือก ซึ่งผมเชื่อว่ามีทั้งที่ขายได้และขายไม่ได้ แต่ที่ผมอยากให้สังเกตคือ ทำไมโครงการของพลัสฯและโครงการที่เราบริหารงานขาย ถึงขายได้ดีอย่างต่อเนื่อง นี่คือข้อพิสูจน์แล้วว่าเราสามารถทำโครงการที่ตอบโจทย์ตลาดในปัจจุบันได้ดีที่สุด คือนอกจากการมอบโครงการที่มีคุณภาพแล้ว เรายังมอบบริการหลังการขายที่แปลกใหม่และเป็นสิ่งที่กลุ่มลูกค้าต้องการแต่ยังไม่เคยมีผู้ประกอบการรายใดพัฒนาโปรโมชั่นเพื่อตอบรับความต้องการดังกล่าวเลย ซึ่งผมเชื่อว่าคนที่จะทำเช่นนี้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ตรงกับกลุ่มลูกค้าซึ่งเรามีในส่วนนี้เพราะเราทำธุรกิจด้านบริหารโครงการมากว่า 10 ปี ต้องมีทีมงานและเงินทุนในการสนับสนุนด้านวิจัย ซึ่งเราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของนโยบายบริษัทฯ และสิ่งสำคัญที่จะเป็นตัวตัดสินที่ดีที่สุดคือ การสนับสนุนด้านความร่วมมือของกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำเจ้าใหญ่ๆ หลายๆ รายมาจัดโปรโมชั่นร่วมกัน เพราะเชื่อว่าการที่บริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้นจะมาร่วมกับใคร แน่นอนว่าเค้าเองก็ต้องมั่นใจในศักยภาพการขายและพัฒนาของโครงการนั้นๆ เช่นกัน” ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ กล่าว
นายยงยุทธ ยังกล่าวเสริมว่า “ผมเชื่อว่าเราเดินมาถูกทาง เพราะจากผลวิจัยพบว่าลูกค้าระดับกลางต้องการโปรโมชั่นที่ใช้ได้จริงในการดำเนินชีวิตอันได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ครัว เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสุขภัณฑ์ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จึงได้ทำฝันแห่งความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้เกิดขึ้นจริงภายใต้ความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ในแต่ละด้าน อาทิ โมเดอร์นฟอร์ม, ไดกิ้น,เครื่องทำน้ำร้อน-น้ำอุ่น สตีเบล, ฉากกั้นอาบน้ำคริสตินา ซึ่งเราได้เริ่มนำเสนอโปรโมชั่นในลักษณะนี้ครั้งแรกกับโครงการทาวน์เฮ้าส์พลัส ซิตี้พาร์ค ในทุกทำเล พบว่า โปรโมชั่นดังกล่าวได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี โดยลูกค้ากว่า 70-80% ตอบรับโปรโมชั่นนี้เป็นอย่างดี และจากบทพิสูจน์ดังกล่าว ทำให้เราได้นำโปรโมชั่นลักษณะนี้มาพัฒนาใช้กับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อโครงการคอนโดมิเนียมของเราในชื่อว่า “Plus Interior Package” ซึ่งถือเป็นอีกก้าวในการพัฒนาโปรโมชั่นหลังการขายของกลุ่มธุรกิจบริหารโครงการ ซึ่งจะเริ่มใช้กับโครงการพลัส 67 เป็นโครงการแรก และคาดว่าจะนำเสนอต่อกลุ่มลูกค้าคอนโดมิเนียมให้ครบทุกโครงการภายในปี 2548 อย่างแน่นอน ซึ่งหากเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จะถือเป็นบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่มีการจัดโปรโมชั่นแพคเกจในลักษณะนี้”
ทั้งนี้ Plus Interior Package พร้อมจะมอบส่วนลดให้แก่กลุ่มลูกค้าโครงการคอนโดมิเนียมของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ ประมาณ 30% โดยมีให้เลือก 2 ลักษณะ คือ แพคเกจที่ 1 มอบความครบครันด้วยเฟอร์นิเจอร์ 20 ชิ้น ประกอบไปด้วย เฟอร์นิเจอร์จาก โมเดอร์นฟอร์ม 17 ชิ้น, ฉากกั้นอาบน้ำคริสตินา 1 บาน, เครื่องทำน้ำร้อนสตีเบล 1 เครื่อง พร้อมผ้าม่าน จากไอคอน 1 ชุด ราคาเต็ม 275,000 บาท ลดเหลือเพียง 195,000 บาท ส่วนแพคเกจที่ 2 ต่างกันที่มีเฟอร์นิเจอร์ โมเดอร์นฟอร์ม 9 ชิ้น พร้อมฉากกั้นอาบน้ำคริสตินา 1 บาน, เครื่องทำน้ำร้อนสตีเบล 1 เครื่อง พร้อมผ้าม่าน จากไอคอน 1 ชุด จากราคาเต็ม 169,000 บาท ลดเหลือเพียง 120,000 บาท เท่านั้น ซึ่งแพคเกจทั้ง 2 นี้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ ยังมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าสามารถเลือกผ่อนได้สูงสุดนาน 3 ปี และหากตัดสินใจเลือกโปรโมชั่นดังกล่าว รับฟรีโปรแกรมบิ๊กคลีน (Big Clean) บริการทำความสะอาดครบสูตรทั้งยูนิต และบริการล้างแอร์ฟรีรับหน้าร้อน (Service Air) ตลอดปี รวม 4 ครั้ง มูลค่ากว่า 5,400 บาททันที
“ในปีนี้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ วางแผนที่จะจัดโปรโมชั่นเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มลูกค้า ซึ่งเราจะจัดอย่างต่อเนื่องตลอดปี เพราะเรากำหนดให้ปี 2548 เป็น “The Year of Customer Satisfaction” หรือปีทองแห่งการสร้างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า โดยเราจะมีการจัดโปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อมอบในสิ่งที่ดีที่สุดและเป็นสิ่งที่ลูกค้าเลือกรับด้วยความพึงพอใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นแนวทางปฏิบัติของเราที่จะต้องพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งในสมกับที่เราเป็นเบอร์หนึ่งของธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรของไทย” นายยงยุทธกล่าวสรุป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
วิภาวริศ เกตุปมา หรือ สุรีย์พร สื่อสกุล และ กรรณิการ์ สายพันธุ์
บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด 02-951-9119, 01-902-5948, 01-269-7731, 01-890-3568
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--