บลจ.กรุงศรี ปลื้มเงินลงทุนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพโตกว่า 30%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 2, 2017 09:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--บลจ.กรุงศรี น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า "บริษัทประสบความสำเร็จในการขยายตลาดกลุ่มลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท โดยมีจำนวนเงินลงทุนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท ณ เดือนสิงหาคม 2560 มีมูลค่ากว่า 38,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนการเติบโตกว่า 30% ขณะที่อุตสาหกรรมมีการเติบโตที่ 6.8%" (ที่มา : สมาคมบริษัทจัดการลงทุน ณ 31 ส.ค. 60) นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบงานให้ก้าวล้ำไปอีกขั้นเพื่อประโยชน์สูงสุดของสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการพัฒนาระบบวันคำนวณจำนวนหน่วย (Trade date) จากเดิมที่มีการคำนวณหน่วยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นคำนวณทุกวันทำการเหมือนกองทุนรวม ทั้งนี้ การพัฒนาระบบ Trade Date ให้สามารถคำนวณจำนวนหน่วยได้ทุกวันทำการ ส่งผลดีต่อการทำรายการของสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.กรุงศรี ให้ได้รับความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการทำรายการต่างๆเพิ่มมากขึ้น ทั้งในส่วนของการเปลี่ยนแผนการลงทุนที่สมาชิกสามารถเปลี่ยนแผนการลงทุนได้อย่างรวดเร็วทันต่อความต้องการและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง และเมื่อสมาชิกมีการลาออกจากงานจะได้รับเงินเร็วขึ้น ตลอดจนการทำรายการนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีความคล่องตัวมากขึ้น เมื่อนายจ้างนำส่งเงินเข้ากองทุน บริษัทสามารถนำเงินไปลงทุนได้อย่างรวดเร็ว" "บลจ.กรุงศรี ยังได้มีการพัฒนาระบบ EM@ccess ONLINE SERVICE สำหรับนายจ้าง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งสำหรับการทำตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพราะช่วยอำนวยความสะดวกสบายสำหรับนายจ้างในการเข้าถึงข้อมูลของสมาชิก รวมทั้งสามารถเรียกดูรายงานต่างๆได้อย่างง่ายดาย การพัฒนาระบบ EM@ccess ONLINE SERVICE สำหรับนายจ้างถือเป็นการพัฒนาต่อยอดจากเดิมที่ระบบ EM@ccess ONLINE SERVICE สามารถให้บริการได้เฉพาะในส่วนของสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเท่านั้น ซึ่งการพัฒนาระบบต่างๆดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากสมาชิกเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม บลจ.กรุงศรี ยังคงมุ่งมั่นและมีแผนที่จะพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ" น.ส.ศิริพร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ