กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
เมื่อการตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆ ถึงจะดี งานนี้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ "ดีป้า" ไม่รอช้า กับการรับบทแม่งานจัดมหกรรมดิจิทัลระดับประเทศ "Digital Thailand Big Bang 2017" เมื่อวันที่ 21-24 กันยายน ที่ผ่านมา ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ชาเลนเจอร์ 1-2 เปิดม่านนำประเทศไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมมุ่งต่อยอดโปรเจคยักษ์ใหญ่มากมาย หวังสร้างศูนย์กลางอาณาจักรแห่งนวัตกรรมอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน
ประสบความสำเร็จอย่างเหนือความคาดหมาย สำหรับ "ดีป้า" หน่วยงานภาครัฐยุคใหม่ ที่ตีโจทย์แตกกับงานที่ "ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝากความคาดหวังไว้ เมื่อโลกต่างตื่นตัว ขานรับกับงาน "Digital Thailand Big Bang 2017" จากสถิติตัวเลขการเข้าถึงบนโลกออนไลน์กว่า 8,194,648 ครั้ง โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 241,004 คน พร้อมกองทัพสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 700 ราย กับคลังความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลระดับโลกกว่า 144 เรื่อง โดยกูรูสตาร์ทอัพชื่อดังจาก 11 ประเทศทั่วโลก ที่สามารถรับชมย้อนหลังได้ผ่านทางเฟสบุ๊คไลฟ์
ด้าน ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการดีป้า เปิดเผยว่า "งาน Digital Thailand Big Bang 2017 ถือเป็นการลั่นกลองบอกให้โลกรู้ว่าประเทศไทยจะเร่งเครื่องเต็มที่สู่ความเป็น Digital Economy อย่างเต็มรูปแบบ แต่เราจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ กับการสานต่อ ขยายเครือข่ายความร่วมมือกับต่างประเทศ อย่าง International Telecommunication Union (ITU) และ Global Entrepreneurship Network (GEN) ที่มีสมาชิกกว่า 160 ประเทศทั่วโลก เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้เป็น Digital SMEs และ Digital Startup รวมไปถึงความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชน ในการสร้างอุตสาหกรรมดิจิทัลในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ EEC ไม่น้อยกว่า 40 ราย ด้วยโปรเจคยักษ์ใหญ่อย่าง Digital Park Thailand, การสร้าง IoT Institute แห่งแรกในไทย, การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และอีกหลายโครงการที่มุ่งตอบโจทย์สู่ความเป็นไทยแลนด์ 4.0 ตั้งแต่วันนี้"
ขณะที่ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงการสานต่อความสำเร็จนี้ ด้วยการจัดงาน Digital Big Bang สัญจร ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ เชียงใหม่, ขอนแก่น,อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และ อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยจะเริ่มจัด 2 แห่ง ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ต่อด้วยอีก 2 จังหวัดที่เหลือในเดือนมกราคมปีหน้า
ส่วนรูปแบบงานนั้นจะเป็นการย่อส่วนจากงานที่กรุงเทพฯ และเน้นการนำเสนอเทคโนโลยีในแต่ละภูมิภาค ด้วยการสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา และสภาหอการค้าในภูมิภาคนั้นๆเป็นหลัก
สำหรับงาน Digital Thailand Big Bang 2017 นั้น นอกจากความสำเร็จในด้านการจุดความสนใจของประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีส่วนผลักดันให้เกิดการเซ็น MOU ระหว่างภาครัฐและเอกชนของไทย รวม 15 ฉบับ เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC กว่า 40 ราย