กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--วิทยาลัยดุสิตธานี
วิทยาลัยดุสิตธานี เตรียมจัดสัมมนาใหญ่ Gracious Hospitality & Tourism International Conference 2017 ระหว่าง 29 พฤศจิกายนถึง 1 ธันวาคม ที่กรุงเทพฯ เผยแนวคิดหลักเป็นงานประชุมและสัมมนาระดับนานาชาติที่เน้นทั้งสาระ งานวิจัย และร่วมแบ่งปันประสบการณ์จริงจากสุดยอดวิทยากรระดับโลกทั้งภาครัฐและเอกชน ที่จะขึ้นเวทีระดมสมองเพื่อหาคาตอบให้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ โดยเฉพาะการสร้างบรรทัดฐานใหม่ของการให้บริการแบบมีอัธยาศัยไมตรีสไตล์ไทยในระดับสากล รองรับกับยุค 4.0
ผศ.ดร.สาโรจน์ พรประภา อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันผลิตบุคลากรคุณภาพให้กับวงการท่องเที่ยวและบริการอย่างต่อเนื่องและยาวนานเป็นเวลาถึง 24 ปี เปิดเผยว่า วิทยาลัยดุสิตธานีได้กำหนดจัดงานประชุมและสัมมนา Gracious Hospitality & Tourism International Conference 2017 ในหัวข้อ "Gracious Hospitality and Tourism Towards 2030" ขึ้นในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายนถึง 1 ธันวาคม 2560 ณ วิทยาลัยดุสิตธานี กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะมุ่งเน้นสาระด้านวิชาการ งานวิจัย ตลอดจนแบ่งปันประสบการณ์ตรงของผู้ปฏิบัติงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่สะท้อนมุมมองของการสร้างความประทับใจอย่างมีอัธยาศัยไมตรี ตามแบบฉบับของแต่ละภูมิภาคและแต่ละประเทศ
ทั้งนี้ งานดังกล่าวจะมีผู้เข้าร่วมงานจากทุกมุมโลก เพื่อให้ครอบคลุมมุมมองที่แตกต่าง ทั้งในแง่มุมมองจากผู้ให้บริการ ผู้ประสานงาน นักท่องเที่ยว นักวิชาการ ตลอดจนผู้สนใจในการพัฒนาตนเอง ซึ่งวิทยาลัยดุสิตธานีเชื่อมั่นว่า สิ่งที่จะได้รับจากงานประชุมและสัมมนาวิชาการครั้งนี้ คือ การสร้างบรรทัดฐานของอัธยาศัยไมตรีแบบสากลในยุค Hospitality 4.0 ที่ระบบสื่อสารและสังคมอินเทอร์เน็ตส่งผลอย่างมากต่อการประเมินและตัดสินใจของทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
"จุดเด่นของงานประชุมและสัมมนาในครั้งนี้ จะอยู่ที่การเสวนาถึงมุมมองที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อเราพูดถึง Gracious Thai Hospitality in the Modern Context หรือความเป็นไทยอย่างสากลในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมของธุรกิจ ซึ่งเราต้องสามารถจัดการกับความคาดหวังของคนทุกฝ่าย และยังต้องปรับตัวให้ได้กับการแข่งขันที่ไร้พรมแดน ผมว่าประเด็นนี้คือ ความย้อนแย้งและความท้าทายที่น่าค้นหาคาตอบ ซึ่งแน่นอนว่าการระดมความเห็นของวิทยากรระดับโลกบนเวทีนี้ อาทิเช่น คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ จากดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล Mr. Paolo Cuccia President จาก Gambero Rosso ประเทศอิตาลี Mr. Yoshiki Tsuji President จาก Tsuji Culinary Institute ประเทศญี่ปุ่น ดร. Mario Hardy CEO จาก PATA , Professor Dimitrios Buhalis Head of Department Tourism and Hospitality จาก Bournemouth University ประเทศอังกฤษ รวมถึงผู้แทนจากภาครัฐระดับสูง จากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะช่วยให้เราคาตอบ และนาไปสู่การพัฒนาให้อุตสาหกรรมบริการ โรงแรมและการท่องเที่ยว สามารถรองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆ เกิดขึ้นในขณะนี้ได้อย่างกลมกลืน สมดุล และดารงอยู่ได้อย่างมั่นคงในอนาคต" ผศ. ดร.สาโรจน์ กล่าว
อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี ยังกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าภูมิใจกว่านั้น คือ การที่วิทยาลัยดุสิตธานีในฐานะสถาบันการศึกษาที่ยืนหยัดผลิตบุคลากรด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน ได้รับเกียรติให้จัดงานประชุมและสัมมนาในระดับอินเตอร์เนชั่นแนล สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานและการยอมรับวิทยาลัยดุสิตธานี ซึ่งเป็นแบรนด์ไทยในระดับเวิลด์คลาส และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า นักศึกษาของวิทยาลัยดุสิตธานีจะได้เรียนรู้ประสบการณ์อีกขั้นจากงานสัมมนาในครั้งนี้ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของวิทยาลัยที่ได้ประกาศแผนพัฒนาระบบการเรียนการสอนไว้ทั้งหมด 3 ด้าน โดยหนึ่งในนั้น คือ การผนึกความร่วมมือกับสถาบันนานาชาติต่างๆ ทั่วโลก
ขณะที่แผนอีก 2 ด้าน ได้แก่ แผนงานในการพัฒนาด้านกายภาพ ซึ่งเป็นการพัฒนาสภาพแวดล้อมของวิทยาลัย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักศึกษาและคณาจารย์ในการสร้างสรรค์องค์ความรู้ที่เป็นเลิศด้านวิชาการ และแผนการพัฒนาหลักสูตร ที่ได้มีการเปิดหลักสูตรระดับปริญญาตรี ด้านนวัตกรรมการบริการในธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม ซึ่งเป็นหลักสูตรใหม่ เพื่อตอบรับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้รหัสใหม่ประเทศไทย 4.0 ก็ยังดาเนินการต่อไปอย่างเข้มข้น เพื่อให้วิทยาลัยดุสิตธานีรักษามาตรฐานในการผลิตบุคลากรคุณภาพเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
สาหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการ ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายนถึง 1 ธันวาคมนี้ สามารถติดตามรายละเอียดและลงทะเบียนเข้าร่วมงาน รวมทั้งส่งผลงานวิจัยเกี่ยวกับธุรกิจบริการ อาทิ ด้านนวัตกรรม กลยุทธ์การตลาด ยุทธศาสตร์การแข่งขัน ได้ที่ www.dusitconference.com โดยกำหนดหมดเขตรับผลงานวิจัยในวันที่ 15 ตุลาคมนี้