กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--นิโอ ทาร์เก็ต
บลจ.กสิกรไทย เตรียมออกกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 3/49 บี วันที่ 9-17 ก.พ. นี้ หลังกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 3/49 เอ ขายเกลี้ยง กวาด 4,999 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เตรียมเปิดขายกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 3/49 บี (RG349B) หลังปิดขายกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 3/49 เอ (RG349A) ด้วยยอดขายกว่า 4,999 ล้านบาท ประเดิมปี 2548 หลังเปิดจองภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แสดงถึงความมั่นใจในการบริหารงานกองทุน และความนิยมของนักลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นของ บลจ.กสิกรไทย
นางดัยนา บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า “บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 3/49 บี ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ระหว่างวันที่ 9 — 17 กุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้เป็นผลจากความสำเร็จในการเปิดขายกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 3/49 เอ เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่าได้รับความนิยมเกินความคาดหมาย จนต้องปิดขายหน่วยลงทุนหลังเปิดจองภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยมียอดขาย 4,999 ล้านบาท หลังจากนั้นบริษัทได้จดทะเบียนกองทุนกับสำนักงาน ก.ล.ต. ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2548 และได้ลงทุนในตั๋วเงินคลังทันทีในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 เมื่อกองทุนได้รับคืนเงินต้นและดอกเบี้ยจากตั๋วเงินคลังดังกล่าว บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ซึ่งคาดว่ามูลค่าหน่วยลงทุนจะประมาณ 10.1863 บาทต่อหน่วย โดยผู้ลงทุนจะได้รับเงินเมื่อครบอายุกองทุนในวันที่ 27 มกราคม 2549 ทั้งนี้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ต้องเสียภาษีในส่วนที่เป็นกำไรส่วนเกินทุน
“ดิฉันขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจและการตอบรับอย่างล้นหลามในครั้งนี้ และสำหรับผู้ลงทุนที่พลาดโอกาสและยังต้องการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนประเภทนี้ บริษัทฯ เตรียมเสนอขายกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 3/49 บี ระหว่างวันที่ 9 — 17 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมกันนี้ดิฉันต้องขอขอบคุณตัวแทนฯทุกๆ ท่าน ที่ได้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างดี ทำให้การเปิดขายกองทุนในครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง” นางดัยนา กล่าว
กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 3/49 บี เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน เมื่อครบอายุกองทุน มีอายุโครงการ 10 — 13 เดือน และมีขนาดกองทุน 5,000 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนระยะสั้นที่มีความเสี่ยงต่ำและมุ่งหวังผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับจากดอกเบี้ยหรือกำไรส่วนเกินจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือที่รัฐบาลค้ำประกัน ทั้งนี้กองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทเอกชนที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร
“ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อหน่วยลงทุนขั้นต่ำเพียง 50,000 บาท โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือซื้อหน่วยลงทุนได้ที่ ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา และ บลจ.กสิกรไทย หรือดูรายละเอียดที่ www.kasikornasset.com” นางดัยนา กล่าว
บลจ.กสิกรไทย ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการลงทุนจากกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2535 ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 4 อันดับ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), Merrill Lynch Investment Managers, บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด และบริษัท เมืองไทยโฮลดิ้ง จำกัด โดย ณ 30 ธันวาคม 2547 บลจ.กสิกรไทยมีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ เท่ากับ 151,897.83 ล้านบาท
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
พิธิมา รัตนรังสิกุล
โทร. 02 631 2290-5 / โทรสาร. 02 234 6192-3
E-mail: Pitima@neotarget.com--จบ--