กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นายแพทย์เดชา ลลิตอนันต์พงษ์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะหัวหน้าโครงการ “โครงการบำบัดรักษาผู้ป่วยติดสารเสพย์ติด กลุ่มยาบ้า” ได้ชี้แจงรายละเอียดว่า ปัจจุบันปัญหายาบ้าได้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และมีแนวโน้มพบมากขึ้นในกลุ่มนักเรียนมัธยมต้น ยาบ้าเป็นยาเสพติดง่ายแต่เลิกยากเพราะผู้ที่เสพคิดว่าตนเองไม่ติด ในวงการแพทย์ถือว่า ผู้ที่ติดสารเสพย์ติดเป็นผู้ป่วยที่มีจิตใจอ่อนไหว เปราะบาง จึงมีแนวโน้มติดยาเสพย์ติดได้ง่าย เมื่อติดยาแล้วจิตใจก็ไม่เข้มแข็งพอที่จะเลิกนอกจากนั้นยาบ้ามีอาการถอนยาน้อยมาก จึงทำให้รู้สึกง่วงซึมแต่ผลในระยะยาวจะทำลายสมองทำให้เกิดปัญหาเรื่องความจำทั้งยังมีแนวโน้มเกิดอาการทางจิตเฉียบพลัน ยาบ้าเป็นยาเสพย์ติดร้ายแรง แต่สามารถรักษาได้ สำหรับวิธีการรักษาที่ได้ผลเป็นการใช้หลักการรักษาแบบกลุ่มบำบัดโดยใช้อิทธิพลของกลุ่มที่มีความเอื้ออาทร เห็นอกเห็นใจกัน ช่วยสร้างกำลังใจโน้มน้าวใจให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้เลิกติดยาอย่างเด็ดขาด
ผู้สนใจเข้ารับการรักษาในโครงการบำบัดรักษาผู้ป่วยติดสารเสพย์ติดกลุ่มยาบ้า ติดต่อแผนกผู้ป่วยนอกจิตเวช ตึก ภปร.ชั้น 12 โทรศัพท์หมายเลข 0-2256-5180-2 ในวันและเวลาราชการ--จบ--
-สส-