กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
ฟอร์ด ประเทศไทย ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จัดกิจกรรม "ตามรอยต้นน้ำของพ่อ" นำคณะสื่อมวลชนออกเดินทางไปกับรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ เพื่อศึกษาวิธีการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและธรรมชาติตามรอยพระราชดำริ พร้อมร่วมกิจกรรมจิตอาสาเพื่อมอบสิ่งดีๆ ตอบแทนสู่สังคมอย่างยั่งยืน ระหว่างวันที่ 2-4 ตุลาคม ณ จังหวัดกาญจนบุรี
คาราวานฟอร์ด เรนเจอร์ เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังจุดหมายแห่งแรก คือ โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งสื่อมวลชนได้มีโอกาสรับฟังการบรรยายเกี่ยวกับจุดประสงค์และความเป็นมาของโครงการฯ อันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งนี้ โดยพระองค์ทรงเน้นเรื่องการบริหารและจัดการทรัพยากรทางธรรมชาติให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ รวมทั้งให้ราษฎรได้อยู่อาศัยและทำมาหากินร่วมกับธรรมชาติอย่างเกื้อหนุนกัน พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสว่า "น้ำคือชีวิต" และทรงเล็งเห็นว่า แม้ประเทศไทยจะตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น มีฝนตกชุก ทำให้มีปริมาณน้ำมากจากทั้งผิวดินและใต้ดิน แต่หากขาดหลักการบริหารจัดการแหล่งน้ำที่ดีแล้ว อาจส่งผลให้เกิดภัยน้ำท่วมหรือน้ำแล้งจากการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ได้
ภายในโครงการฯ คณะสื่อมวลชนได้เยี่ยมชมการดำเนินงานเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โครงการปลูกหญ้าแฝกที่ช่วยป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน การศึกษาองค์ความรู้โครงการแก้มลิงเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและช่วยกักเก็บน้ำเพื่อการใช้ประโยชน์ทางด้านเกษตรกรรม และยังได้ร่วมกันสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำอันเป็นตัวแปรสำคัญของการอยู่รอดของผืนป่าและช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับระบบนิเวศน์อย่างยั่งยืน
ช่วงเช้าวันถัดมา สื่อมวลชนได้ลงแพขนานยนต์เพื่อข้ามฝั่งไปยังอำเภอทองผาภูมิ และมุ่งหน้าต่อไปยังจุดชมวิวเนินสวรรค์ เพื่อพักรับประทานอาหารกลางวันท่ามกลางบรรยากาศเขียวชอุ่ม หลังจากนั้น จึงได้ขับรถฟอร์ด เรนเจอร์ ตะลุยเข้าอุโมงค์เหมืองแร่และเอเวอเรสต์แห่งทองผาภูมิ เหมืองแร่เก่าสุดตระการตาที่มีความยาวถึง 2 กิโลเมตร สภาพภายในอุโมงค์มีธารน้ำไหล มีน้ำตกไหลออกมาจากปล่องเพดานถ้ำ รวมถึงน้ำที่ผุดออกมาจากฝาถ้ำ และเริ่มมีหินงอกหินย้อยตามธรรมชาติ คณะฯ ยังได้สำรวจป่าชุมชน แหล่งกำเนิดต้นน้ำ และธรรมชาติอันสวยงามรอบบริเวณ โดยสื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบและสัมผัสสมรรถนะอันแข็งแกร่งจากการขับขี่รถฟอร์ด เรนเจอร์ แบบออฟโรดบนเส้นทางอันท้าทายตลอดทั้งวัน
แม้ว่าต้องเผชิญกับเส้นทางอันแสนคดเคี้ยวและสภาพพื้นถนนที่ยากลำบาก ฟอร์ด เรนเจอร์ ได้พาคณะสื่อมวลชนเอาชนะทุกอุปสรรคการเดินทางอย่างง่ายดายและปลอดภัยด้วยขุมพลังเปี่ยมสมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ วีจี เทอร์โบ ขนาด 3.2 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 200 แรงม้า และมอบแรงบิดสูงสุดถึง 470 นิวตันเมตร ผนวกกับเทคโนโลยีอันชาญฉลาดที่ตอบสนองต่อการขับขี่แบบออฟโรด อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) โหมดการตั้งค่าแบบอัตราทดสูง (4x4 Low) และระบบล็อคเฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential (LRD) ที่ช่วยเพิ่มพลังการขับเคลื่อนให้ดียิ่งขึ้นโดยเฉพาะบนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ และด้วยความสามารถในการลุยน้ำลึกสูงสุดถึง 800 มิลลิเมตร พร้อมการออกแบบช่วงล่างและด้านหน้าให้สามารถกระจายแรงดันจากน้ำได้เป็นอย่างดี ฟอร์ด เรนเจอร์ จึงสามารถพาผู้ขับขี่ผจญภัยไปบนทุกเส้นทางหฤโหดได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล
สำหรับกิจกรรมในวันสุดท้าย คณะสื่อมวลชนได้ไปเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเฮงเค็ลไทย ซึ่งเป็นโรงเรียนในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีที่มีพระราชประสงค์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร โดยสื่อมวลชนได้ร่วมกิจกรรมปลูกหญ้าแฝกเพื่อช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ ทั้งยังลดโอกาสการชะล้างและพังทลายของหน้าดิน อีกทั้งร่วมกับเด็กๆ ที่โรงเรียนช่วยกันปลูกต้นไม้ผลเพื่อใช้เป็นอาหารกลางวัน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
นอกจากการขับขี่แบบออฟโรด สื่อมวลชนยังได้สัมผัสเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อันชาญฉลาดอีกมากมายเพื่อช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายและปลอดภัยอย่างเหนือชั้นตลอดการเดินทาง
"ตลอดระยะเวลาร่วม 70 ปี ที่พสกนิกรชาวไทยได้อาศัยอยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระราชาผู้ทรงธรรม ภาพที่พวกเราทุกคนต่างคุ้นตาคือภาพที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนราษฎรของพระองค์แม้ในพื้นที่ห่างไกล พระองค์ได้ทรงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนของพระองค์ให้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ยังทรงตระหนักถึงความสำคัญของผืนน้ำและผืนป่าอันเป็นทรัพยากรล้ำค่าที่พวกเราทุกคนควรช่วยกันอนุรักษ์ไว้" นางสาวศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
"กิจกรรมตามรอยต้นน้ำของพ่อในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อสานต่อพระราชปณิธานของพระองค์ด้านการอนุรักษ์แหล่งทรัพยากรน้ำและป่าไม้ รวมถึงร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่แทบมิได้ว่างเว้นแต่ละวัน เพื่อให้ประชาชนของพระองค์ได้อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทยอย่างเป็นสุข ฟอร์ดในฐานะบริษัทรถยนต์ต่างชาติที่เข้ามาดำเนินธรุกิจในประเทศไทยมากว่า 20 ปี ขอน้อมนำพระราชจริยวัตร พระราชดำรัส และพระราชดำริอันงดงาม มาประยุกต์ใช้เป็นหลักการในการดำเนินธุรกิจสืบต่อไป" นางสาวศุภรางศุ์ กล่าวปิดท้าย