กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--สำนักวิจัยซูเปอร์โพล
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล มูลนิธิ สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจ โพล เรื่อง โพลการเมือง ที่สุดทึ่งและอึ้ง จำนวนทั้งสิ้น 1,225 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง วันที่ 1 - 7 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา
เมื่อถามถึง ประเด็นร้อนทางการเมืองและสังคมที่สุดอึ้งจนพูดไม่ออกของประชาชน พบว่า ร้อยละ 41.2 อึ้ง เมื่อ อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีคดีออกนอกประเทศไปได้ รองลงมาคือ ร้อยละ 35.2 ระบุ พูดไม่ออก เมื่อ ประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นแพะรับโทษในกระบวนการยุติธรรม ร้อยละ 32.7 ระบุ อึ้ง กับ ราคาอาหาร ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ร้อยละ 29.8 พูดไม่ออกเมื่อ เห็นยาเสพติดระบาดหนักบริเวณชุมชนที่พักอาศัย ร้อยละ 25.6 อึ้ง เมื่อรัฐบาลและหน่วยงานรัฐ ปล่อยให้ร้านสะดวกซื้อมีเครื่องกดเบียร์ขาย ง่ายต่อล่อใจชักจูงเด็กและเยาวชน เข้าถึง น้ำเมา ได้ง่าย
นอกจากนี้ ร้อยละ 18.1 อึ้ง เมื่อหน่วยงานรัฐ ค้างชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ และร้อยละ 27.1 อึ้ง ด้านอื่นๆ ได้แก่ เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับเงินแม่นักกีฬา ยุคบิ๊กตู่รับใต้โต๊ะยาก คุมราคาหวยไม่อยู่ ปัญหารถแว้นแต่งซิ่ง และ อึ้ง ที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ถอนตัวจากกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามประชาชนถึง ผลงานรัฐบาลที่สุดทึ่ง ของแต่ละกระทรวง ทำให้ประชาชนมีความสุข พบว่า อันดับแรก หรือร้อยละ 46.0 ระบุ ฝ่ายความมั่นคง ทำบ้านเมืองสงบสุข ไม่มีม็อบรุนแรงบานปลาย อันดับสอง หรือร้อยละ 36.0 ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ แจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผู้มีรายได้น้อย อันดับ สาม หรือ ร้อยละ 32.1 ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ จัดเก็บรายได้เพิ่มจากยุคนักการเมืองในอดีตที่ได้เฉลี่ยปีละ 500 ล้าน เพิ่มขึ้นเป็น 2,400 ล้านบาทในยุครัฐบาลนี้
ตามด้วย อันดับที่สี่ หรือร้อยละ 27.3 ได้แก่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพิ่มเบี้ยยังชีพคนชรา และอันดับรองๆ ลงไปได้แก่ กระทรวงเกษตรฯ โครงการปล่อยน้ำเข้านา ปล่อยปลาเข้าทุ่ง กระทรวงคมนาคม รถไฟรางคู่ เพิ่มเส้นทางด่วน กระทรวงมหาดไทย เงินตำบลละ 5 ล้าน กระทรวงต่างประเทศ ต่างชาติยอมรับประเทศไทย ที่น่าเป็นห่วงคือ 1 ใน 5 หรือร้อยละ 20 ระบุไม่มีกระทรวงใดเลยที่มีผลงานน่าทึ่ง ในการสำรวจครั้งนี้
ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึง หน่วยงานรัฐที่ควรถูกปฏิรูปแก้ไขกฎหมายของหน่วยงานให้ดีขึ้น พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 33.5 ระบุ ตำรวจ รองลงมาคือ ร้อยละ 12.0 ระบุ กระทรวงศึกษาธิการ ร้อยละ 10.0 ระบุ กระทรวงด้านเศรษฐกิจ ร้อยละ 9.3 ระบุ กระทรวงคมนาคม เป็นเจ้าภาพดูแลความปลอดภัยทางถนน ร้อยละ 7.1 ระบุ หน่วยงานความมั่นคง ความสงบสุขใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ร้อยละ 5.9 ระบุ กระทรวงท่องเที่ยว ส่งเสริมการอนุรักษ์ ท่องเที่ยวยั่งยืน ร้อยละ 3.2 ระบุ กระทรวงสาธารณสุข บริการสุขภาพโรงพยาบาลที่เร็วไม่รอนาน มีคุณภาพดีเข้าได้ทั่วถึง และร้อยละ 19.0 ระบุอื่นๆ อาทิ กระทรวงเกษตรฯ ลดต้นทุนภาคการผลิตของเกษตรกร กระทรวงพลังงาน ส่งเสริมการใช้ โซล่าเซลล์ พลังงานทางเลือก และกระทรวงแรงงาน คนไทยต้องมีงานทำ ขจัดปัญหาแย่งอาชีพคนไทย และกระทรวงยุติธรรม ช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์เป็นแพะรับโทษ เป็นต้น
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึง นักกฎหมายของรัฐบาลที่ประชาชนเชื่อถือในการแก้ปัญหาประเทศ พบว่า เกินครึ่งหรือร้อยละ 53.1 ระบุ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ในขณะที่ ร้อยละ 46.9 ระบุ นายวิษณุ เครืองาม นอกจากนี้ ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อสอบถาม ระยะเวลาที่รัฐบาล ควรอนุญาตให้พรรคการเมือง และนักการเมือง ออกมาเคลื่อนไหวได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย พบว่า จำนวนมากหรือร้อยละ 44.5 ระบุ มากกว่า 1 ปี ขึ้นไป หรือ ช่วงก่อนเลือกตั้ง ในขณะที่ ร้อยละ 27.7 ระบุ 6 เดือนอ ถึง 1 ปี และร้อยละ 27.8 ระบุ ไม่เกิน 6 เดือนนี้เท่านั้น