กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--ฟร้อนท์เพจ
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เชื่อมต่องานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมในทุกมิติร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และภาคสังคม เริ่มจากงาน "Startup Thailand 2017" จนถึงงาน "Thailand Tech Show" จนถึง ล่าสุด งาน"i-NNOVATION THAILAND WEEK 2017" เพื่อสร้างให้เกิดระบบนวัตกรรมแห่งชาติ โดยมี สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงานในครั้งนี้
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานในพิธีเปิดงาน "i-NNOVATION THAILAND WEEK 2017" ณ ภิรัชฮอลล์ 1-2 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ว่า "กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีบทบาทสำคัญในการเป็น "สะพานเชื่อมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม" ในทุกมิติร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และภาคสังคม ทางด้านการวิจัย เผยแพร่ สร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมให้แก่ประชาชน รวมไปถึงสนับสนุนการสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ โดยการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา การประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเข้าสู่ระบบการผลิตทั้งภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การบริการ ตลอดจนภาคการศึกษา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนากำลังคน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต พี่น้องประชาชน สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ผ่านการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งการสร้างให้เกิดธุรกิจนวัตกรรม
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ดังกล่าว ในปี 2560 กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จึงได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เริ่มจากในเดือนกรกฎาคม จัดงาน "Startup Thailand 2017" เพื่อสร้างให้เกิดระบบนิเวศน์วิสาหกิจเริ่มต้น (Startup Ecosystem) ในกลุ่มสตาร์ทอัพ ต่อด้วยในเดือนสิงหาคม จัดงาน "มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ" เพื่อสร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมในกลุ่มเด็กและเยาวชน และในเดือนกันยายน จัดงาน "Thailand Tech Show" เพื่อผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยของกลุ่มนักวิจัยไปขยายผลให้เกิดการใช้งานจริงในเชิงพาณิชย์ และในเดือนตุลาคม กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จึงได้จัดงาน "INNOVATION THAILAND WEEK 2017" เพื่อสร้างให้เกิดระบบนวัตกรรมแห่งชาติ (National Innovation System, NIS) ของประเทศไทย
สำหรับผลงานที่ผ่านมาในปี 2560 กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ให้การบริการผู้ประกอบการทั้งที่เป็นสตาร์ทอัพผ่านโครงการ Startup Thailand วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และ OTOP ผ่านโครงการคูปองนวัตกรรม และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ กว่า 1,500 ราย และได้มีการสนับสนุนโครงการนวัตกรรมไปแล้วกว่า 353 โครงการ เป็นเงินสนับสนุน 396 ล้านบาท ก่อให้เกิดมูลค่าโครงการที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศกว่า 1,500 ล้านบาท และตั้งเป้าปีหน้าที่จะพัฒนาผู้ประกอบการ 2,000 รายให้สามารถเข้าถึง "โครงสร้างพื้นฐานทางนวัตกรรม" (Innovation infrastructure) 5 ด้าน คือ 1) นวัตกรรมเชิงพื้นที่ (Area-based innovation) ผ่านโปรแกรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมภูมิภาค (Regional Innovation System, RIS) และย่านนวัตกรรม 15 แห่ง ในภาคเหนือ อีสาน ภาคใต้ชายแดน และระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) 2) นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven innovation) เป็นการใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อนระบบนวัตกรรมรวมถึงการคาดคะเนแนวโน้มในอนาตคตของนวัตกรรมในเศรษฐกิจเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ เศรษฐกิจฐานชีวภาพ (Bio-economy) เศรษฐกิจการผลิตและหมุนเวียน (Manufacturing and Circular economy) และเศรษฐกิจสังคม บริการ และแบ่งปัน (Social, Service and Sharing economy) 3)นวัตกรรมตลาด (Market innovation) โดยการสร้างศักยภาพการพัฒนาตลาดนวัตกรรมในประเทศ โดยกระบวนการแพร่กระจายทางนวัตกรรม และการเชื่อมโยงในการเติบโตระดับนานาชาติ (Internationalization) รวมถึงการเชื่อมโยงกับกลไกบัญชีนวัตกรรมไทย เพื่อให้สามารถขายในส่วนราชการได้ 4) การเงินเพื่อนวัตกรรม (Innovation Finance) การสร้างกลไกการเงินนวัตกรรมและยกระดับความสามารถในการเข้าถึงแหล่งทุนโดยเฉพาะ Venture capital และตลาดทุน (Capital market) ผ่านการสร้างบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี (Technology Startup) และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทางนวัตกรรม (Innovative SMEs) ใหม่จำนวน 100 ราย และ 5) นวัตกรรมสื่อ (Media Innovation) ผ่านการสร้างองค์ความรู้ด้านการจัดการนวัตกรรม (Innovation management) และใช้สื่อใหม่ (New Media) เพื่อสร้างรูปแบบทางนวัตกรรม (Innovation pattern) อันส่งผลต่อความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักรับรู้สาธารณะต่อนวัตกรรมในวงกว้าง และเป็นการสร้างอัตลักษณ์สำคัญของระบบนวัตกรรมแห่งชาติของไทย ซึ่งการจัดงานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีของกระทรวงฯ จะทำให้ประชาชนในทุกกลุ่มของประเทศตั้งแต่นักเรียน นักศึกษา สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โอท็อป สามารถนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปต่อยอดสร้างให้เกิดธุรกิจ นวัตกรมที่มีความหลากหลายของนวัตกรรม และสามารถนำไปขยายผลเกิดการใช้จริงขึ้นในทุกภาคส่วนของประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกิด "ระบบนวัตกรรมแห่งชาติ" (National Innovation System) ที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น"
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ สนช. เปิดเผยว่า "สำหรับการจัดงาน i-NNOVATION THAILAND WEEK 2017 ในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "i-NNOVATION 360" ซึ่งจะเป็นงานนวัตกรรมครั้งแรกของประเทศ ที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับประสบการณ์และมุมมองนวัตกรรมรอบด้านแบบ 360 องศา ครบ "ทุกมุมมองการสร้างสรรค์นวัตกรรม" จากทั่วประเทศ โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคม 2560 ณ ภิรัชฮอลล์ ไบเทคบางนา ซึ่งงานดังกล่าวจะประกอบไปด้วย 4 โซนนวัตกรรมที่สำคัญ ได้แก่
โซนที่ 1 i-SHOWCASE เป็นโซนจัดแสดงนวัตกรรมที่โดดเด่นและศักยภาพของผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา สังคม ในทุกระดับตั้งแต่เล็กถึงใหญ่ ซึ่งมีความหลากหลายของนวัตกรรมทั้งในรูปแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบ นวัตกรรมเชิงสังคม สตาร์ทอัพ บุคคลผู้สร้างแรงบันดาลใจ องค์กรนวัตกรรม ภายในนิทรรศการ "9 รางวัลสุดยอดนวัตกรรมของประเทศ เทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 9 พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย"
โซนที่ 2 i-SCENARIO เป็นโซน นำเสนอ THE BIG INNOVATIONS เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มอนาคตที่ส่งผลต่อประเทศไทย ใน 4 ภาพอนาคตนวัตกรรม
โซนที่ 3 i-SOLUTION พบกับ 60 องค์กรผู้ให้บริการปรึกษาเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างครบวงจร ซึ่งโซนนี้เปรียบเหมือนเป็นตลาดนัดบริการนวัตกรรม โดยผู้เข้าร่วมงาน จะได้พบกับบริการให้คำปรึกษาด้านต่างๆ การเข้าปรึกษาเสนอโครงการรับเงินทุนพัฒนานวัตกรรมจาก สนช. การจับคู่เจรจาต่อยอดธุรกิจนวัตกรรม การสร้างเครือข่ายนวัตกรรมร่วมกับภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจนวัตกรรม ในหลากหลายรูปแบบ
โซนที่ 4 i-SHARE เป็นเวทีถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์การสร้างสรรค์นวัตกรรมจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการนำความรู้สร้างสรรค์นวัตกรรมขึ้นในหลากหลายด้าน จากเวทีสัมมนาต่างๆ ภายในงาน ได้แก่ งานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ "การเชื่อมต่อนวัตกรรมฐานวิทยาศาสตร์และธุรกิจเทคโนโลยี 2017"(International Conference on Science-based Innovation and Technopreneurship Connect 2017, SITE CONNECT 2017)" นอกจากนั้นยังมีงานเสวนาที่น่าสนใจ อาทิ งานเสวนา "องค์กรนวัตกรรม…สู่ความยั่งยืนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย" ในวันที่ 6 ตุลาคม งานเสวนา "Media Innovation…นวัตกรรมสื่อ" โดยผู้อยู่ในแวดวงสื่อสาร ในวันที่ 7 ตุลาคม และ งานสัมมนา "INNOVATION 101" ให้นิยามนวัตกรรมและแนวทางขอรับทุน สนช. ในวันที่ 8 ตุลาคม