กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--
สาธารณรัฐวานูอาตูได้ส่งคณะผู้แทนรัฐบาลเยือนกรุงเทพมหานครครั้งแรกนำโดย นายแอนดรู โซโลมอน นาพวท เอ็มพี เลขาธิการรัฐสภาแห่งกระทรวงกิจการภายใน และคณะ ซึ่งได้รับมอบหมายภารกิจจากท่านนายกรัฐมนตรีชาลอต ซัลไว (Prime Minister Charlot Salwai) แห่งสาธารณรัฐวานูอาตู โดยจุดประสงค์หลักเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดตั้งสำนักงานอันเป็นเครือข่ายของรัฐบาลระดับนานาชาติภายใต้ชื่อ "ศูนย์บริการข้อมูลวานูอาตู" ( Vanuatu Information Centre (VIC)) ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่ง VIC มีเครือข่ายในปัจจุบันทั้งใน พอร์ทวิลา ฮ่องกง นครโฮจิมินห์ กรุงพนมเปญ และกรุงเทพมหานคร และในโอกาสที่ Harvey Law Group (ฮาร์วีย์ ลอว์ กรุ๊ป) ได้รับหนังสือราชการแต่งตั้งจากทางรัฐบาลวานูอาตูให้เป็นผู้แทนอย่างเป็นทางการแห่งแรกในประเทศไทย สำหรับโปรแกรม Development Support Program การลงทุนในการได้มาซึ่งสัญชาติแห่งสาธารณรัฐวานูอาตู โดยกุญแจสำคัญในการให้บริการผ่านเครือข่ายของ VIC คือการประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำโปรแกรม "การลงทุนเพื่อการได้มาซึ่งสัญชาติ" ของสาธารณรัฐวานูอาตู (Citizenship by Investment Program (CIP)) เป็นโปรแกรมที่เสนอสัญชาติที่สองให้แก่บุคคลที่ลงทุนผ่านกองทุนต่างๆของรัฐบาลวานูอาตู (Vanuatu Government Development Funds)
โปรแกรมการลงทุนที่ได้กล่าวมาในข้างต้นมีชื่อว่า "Development Support Program" (DSP) ซึ่งเป็นโปรแกรมเพื่อการได้มาซึ่งสัญชาติอันมีแหล่งที่มาสำคัญจากแหล่งกองทุนเพื่อการพัฒนาประเทศ ผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศวานูอาตูจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ อาทิ ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราในการเข้าประเทศ 125 ประเทศ รวมทั้งสหราชอาณาจักร ประเทศอันเป็นกลุ่มเชงเก้นและประเทศสหพันธรัฐรัสเซียและประเทศอื่นๆที่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ซึ่งโปรแกรมนี้ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่ม ลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูง ( HNWI) ที่มองหาผลประโยชน์เพิ่มเติมจากการมีสัญชาติที่สอง ทั้งด้านความสะดวกในการเดินทางไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกและผลประโยชน์ในหลักทรัพย์ส่วนบุคคล อาทิ การถือสัญชาติในประเทศที่มีสิทธิพิเศษต่างๆทางด้านภาษี แม้ประเทศไทยจะไม่เคยเป็นผู้นำตลาดในด้านการลงทุนสำหรับหนังสือเดินทางที่สอง แต่ทว่าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในประเทศไทยได้หันมาสนใจในการลงทุนเพื่อการได้มาซึ่งสัญชาติมากยิ่งขึ้นในปัจจุบันนี้
นายแอนดรู โซโลมอน นาพวท เอ็มพี เลขาธิการรัฐสภาแห่งกระทรวงกิจการภายใน ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "ข้าพเจ้ายินดีเป็นอย่างยิ่งในการมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในนามผู้แทนของท่านนายกรัฐมนตรีชาลอต ซัลไว (Prime Minister Charlot Salwai) ข้าพเจ้าและคณะผู้แทนรัฐบาลซึ่งต่างมีความเชี่ยวชาญหลากหลายแขนงจะได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนโอกาสทางธุรกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว รวมถึงโปรแกรมการลงทุนในการได้มาซึ่งสัญชาติ (Development Support Program( ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้สานสัมพันธ์กับประเทศไทยเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ครั้งนี้คณะผู้แทนแห่งวานูอาตูได้พูดคุยในประเด็นการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศวานูอาตูในการเยือนประเทศไทย สำหรับผู้มีสัญชาติไทยและถือหนังสือเดินทางแห่งราชอาณาจักรไทยจะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อเข้าประเทศวานูอาตูเป็นระยะเวลา 30 วัน ประเด็นดังกล่าวนี้จะเพิ่มความน่าสนใจให้ประเทศไทยทั้งในแง่เป็นจุดพักสำหรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นการพัฒนาตลาดการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างวานูอาตูและประเทศไทย"
ด้าน นายบาสเตียน เทรลแคท ผู้บริหาร ฮาร์วีย์ ลอร์ กรุ้ป กล่าวว่า "ตนเองรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการแต่งตั้งให้ Harvey Law Group เป็นผู้แทนทั่วโลกอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการยกระดับโปรแกรม DSP ที่จะรับประกันว่าวานูอาตูจะก้าวเป็นผู้นำระดับโลกด้านการลงทุนเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ในส่วนของ Harvey Law Group เราได้รับความเชื่อถือและชื่อเสียงอันเป็นที่ยอมรับในทวีปเอเชีย และ เราหวังว่าทั้งรัฐบาลวานูอาตูและ Harvey Law Group จะได้สนับสนุนซึ่งกันและกันต่อจากนี้ไปครับ"
และด้วยสำนักงานถึง 5 สาขาของ VIC ในปัจจุบันรวมทั้งเครือข่ายตัวแทนอยู่มากมายในทวีปเอเชีย VIC ยังได้พุ่งเป้าไปที่ตลาดจีนและอังกฤษในอีก 6 เดือนข้างหน้า และจะขยายตลาดออกไปอีกในปี 2561
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อinfo@vic.vu