กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--ปชป.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ เวลา ๑๘.๐๐ น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้แถลงถึงการประชุมวันนี้ว่า ทางคณะกิจการอำนวยการกิจการกทม. ได้เรียกประชุมโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมคือ ผู้สมัครผู้ว่าฯและก็รองผู้ว่าฯรวมทั้งกรรมการที่อำนวยการการรณรงค์การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ของพรรคฯ ซึ่งตนได้ทำหน้าที่ เป็นประธานในที่ประชุม สาระสำคัญของการประขุมประกอบไปด้วย 2 ส่วน
1. การประเมินสถานการณ์การรณรงค์
2. เรื่องนโยบาย
ในส่วนของการประเมินสถานการณ์และการรณรงค์นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวขอปฏิเสธในเบื้องต้นถึงกระแสข่าวต่าง ๆ ซึ่งมีการไปเผยแพร่การอ้างอิงถึงคำสัมภาษณ์ของท่านประธานกรรมการอำนวยการของพรรคฯ คือ นายถวิลว่า มีแหล่งข่าวอื่นบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไปสนับสนุนผู้สมัครคนอื่น กรณีที่ประเมินคะแนนนิยม ตนขอเรียนอย่างชัดเจนเลยว่าไม่เป็นความจริง การจะตัดสินใจเลือกผู้สมัครคนใดเป็นสิทธิของประชาชนแต่ละคน เป็นปัจจัยการพิจารณาอย่างไรก็แล้วแต่ว่าตนยังเชื่อมั่นว่าสมาชิกของพรรคฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลไกของพรรคให้การสนับสนุนผู้สมัครของพรรค ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องหวั่นไหวกับการสำรวจความคิดเห็นซึ่งก็เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา พรรคได้ตัดสินใจส่งผู้สมัครในนามของพรรค ก็จะเชื่อมั่นในแนวทางในผู้สมัครของพรรค และขอยืนยันว่าทุกกลไกของพรรคเดินหน้าสนับสนุนในเรื่องของการรณรงค์
แนวทางในการรณรงค์นั้น พรรคยังยึดในแนวทางเดิมก็คือว่า ไม่มีความคิดที่จะไปโจมตีผู้สมัครคนอื่นทำให้เกิดความขัดแย้งในจุดไหนอย่างไร แต่ว่าประเมินแล้วว่าต้องทำมากยิ่งขึ้นก็คือ ให้ประชาชนได้มีโอกาสสัมผัสกับทั้งบุคลิกและแนวคิดของผู้สมัครและแนวนโยบายของพรรคมากยิ่งขึ้น และตนพูดได้ว่า สิ่งที่พรรคได้เตรียมและคิดเรื่องนี้มาโดยตลอดในแนวทางนี้จึงต้องย้ำอีกครั้งว่า พรรคจึงได้มีการเตรียมการและได้เปิดตัวคนที่จะมาเป็นคณะทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ว่า รองผู้ว่ากทม. และการคัดเรื่องบุคคลที่จะมาเป็นรองผู้ว่า ขอย้ำอีกครั้งว่า ได้คัดมาตามสายงานเพื่อที่จะได้คนที่มีความรู้ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเหมาะกับงาน พร้อมที่จะทำงานในด้านนั้น ๆ ตนขอเรียนว่า ในส่วนที่จะเป็นนโยบายที่คุยกันลึกมากขึ้นก็คือว่า นอกเหนือจากที่มีการเผยแพร่ตามเอกสารแล้ว ก็พร้อมให้รองผู้ว่าทุกคน ได้มีโอกาสเผยแพร่แนว นโยบายเฉพาะด้านมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะทำในโอกาสต่าง ๆ ต่อไป
หลังจากนั้นรองหัวหน้าพรรค ได้ถือโอกาสแนะนำ ทีมรองผู้ว่าฯ ได้แก่ นายจงรักษ์ ไกรนาม ผู้บริหารของโรงเรียนสาธิตเกษตร ซึ่งจะมาเป็นรองผู้ว่าฯดูแลด้านการศึกษา นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่าแนวนโยบายที่ผู้สมัครผู้ว่าของพรรคย้ำมาโดยตลอดก็คือนอกเหนือจากการดำเนินงานตามแนวปฏิรูปการศึกษาซึ่งพรรคเองก็เป็นผู้ผลักดันมา ในส่วนของกทม.เองก็มีข้อจำกัดที่เป็นอยู่ในปัจจุบันซึ่งพยายามขจัดเพื่อที่จะยกคุณภาพมาตรฐานของโรงเรียนกทม.ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก และที่ผู้สมัครผู้ว่าฯพูดเสมอก็คือเชื่อว่าอยากจะสนองตอบประชาชนที่จะเห็นว่าแข่งขันกันเข้าโรงเรียน อย่างเช่น โรงเรียนสาธิต พรรคก็ได้คนที่ทำงานบริหารโรงเรียนสาธิตมาเพื่อที่จะมาช่วยทำตรงนี้ นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองสุจริต จุดหนึ่งที่พรรคพูดและย้ำมาโดยตลอดว่า ระบบการจ่ายเงินงบประมาณและการจ่ายเงินแผ่นดินหรือแม้กระทั่งระบบการจัดทำบัญชีต่าง ๆ ของกทม. ซึ่งในปัจจุบันยังมีปัญหามีข้อจำกัดอยู่ และมีการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้อยู่ พรรคได้รองผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ คือ ศาสตราจารย์พล.ต.ดร.สมชาย พิรุณพล เป็นผู้ดูแลการปรับปรุงระบบบัญชีและการสร้างความโปร่งใสในระบบการคลังต่าง ๆ ของกทม.รองผู้ว่าฯ ฝ่ายโยธา คือดร.ศุภชัย ตันติคม ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องนี้ ดูแลในเรื่องของการจัดการปัญหาเกี่ยวกับงานด้านโยธา เช่น ในเรื่องของระบบบำบัดน้ำเสียเป็นต้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่าในเรื่องนโยบายพรรคและผู้สมัครผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ จะต้องช่วยกันทำให้ประชาชนรับรู้ให้มากยิ่งขึ้น ตนขอเรียนว่าการลงพื้นที่ของผู้สมัครของทีมผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ นอกเหนือจากการไปพบปะสัมผัสกับประชาชนแล้ว จะได้ใช้โอกาสในการลงพื้นที่นั้น เผยแพร่แนวความคิดนโยบาย เฉพาะด้านต่าง ๆ ตามสภาพของตารางการพบประชาชนให้เหมาะสมต่อไป ทั้งหมดนี้ คือสาระของการประชุมกันในวันนี้ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมกันในช่วงเย็น ผู้สมัครผู้ว่าฯได้เข้าประชุมร่วมกับส.ก. ของพรรคด้วย เป็นประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติในกรุงเทพมหานคร.--จบ--
-ยก-