กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
นายสุรจิตต์ อินทรชิต เลขาธิการ ส.ป.ก. เผยถึง เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินที่ ส.ป.ก. ดูแลอยู่ จำนวน ๒,๘๑๕,๗๔๒ ราย ในพื้นที่ ส.ป.ก. ที่จัดให้ ๓๕,๘๒๘,๓๖๙ ไร่ พร้อมมีเอกสารหลักฐานแสดงการถือครองอย่างถูกต้องโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจำแนกเป็น ที่ดินของรัฐ ใน ๖๗ จังหวัด เนื้อที่ ๓๔,๙๙๐,๔๘๐ ไร่ เกษตรกรได้รับประโยชน์ ๒,๑๙๘,๗๒๑ ราย ที่ดินชุมชน ใน ๖๒ จังหวัด เนื้อที่ ๓๖๘,๘๕๙ ไร่ เกษตรกรได้รับประโยชน์ ๕๘๗,๘๔๒ ราย ที่ดินเอกชน ใน ๕๓ จังหวัด เนื้อที่ ๔๖๙,๐๓๐ ไร่ เกษตรกรได้รับประโยชน์ ๒๙,๑๗๕ ราย และแม้ว่า เกษตรกรกรผู้ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนขอรับการจัดที่ดินทำกินก่อนหน้านั้น กว่า ๔๐๐,๐๐๐ ราย ก็ยังไม่มีโอกาสได้รับการจัดที่ดิน ทั้งนี้การดำเนินการในที่ดินของรัฐ ประสบปัญหาสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติให้กรมป่าไม้มอบให้ส.ป.ก.ไปดำเนินการตั้งแต่ ปี ๒๕๓๖ ปัจจุบันยังมีแปลงที่ดินที่ยังมิได้ทำการสำรวจรังวัดจำนวนมาก เนื่องจากผู้ถือครองไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือมีการครอบครองที่ดินเกินกว่าจำนวนเนื้อที่ตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินกำหนด อีกอย่างที่เป็นปัญหาอุปสรรคส่วนหนึ่ง มาจากการจัดซื้อที่ดินของ ส.ป.ก. เกิดความล่าช้า ใช้เวลาหลายปี จึงจะจัดซื้อที่ดินได้ เหตุนี้เอง จึงทำให้เจ้าของที่ดินเปลี่ยนใจไปขายกับผู้อื่นที่ให้ราคาสูงกว่าและไม่ต้องรอนานเกินไป
ผมจึงขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรทุกคน ช่วยเป็นหูเป็นตา ดูแลผืนดินของ ส.ป.ก.ให้ดี คุ้มครองรักษาไว้ตราบถึงลูกหลาน โดยไม่โอนหรือเปลี่ยนมือไปให้ผู้อื่น เป็นเกษตรกรคนเก่ง มุ่งพัฒนาเกษตร ๔.๐ เพื่อให้ภาคการเกษตรของไทย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สืบไป