กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่า สถานการณ์ตลาดคอมพิวเตอร์มีแนวโน้ม กระเตื้องขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2542 ต่อเนื่องมายังปี 2543 มีปัจจัยสนับสนุน มาจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เมื่อประกอบกับกระแสความต้องการใช้อินเทอร์เน็ต และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) และการเปิดเสรีทางการค้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITA) ตามข้อตกลงขององค์การการค้าโลก WTO ที่ภาครัฐต้องประกาศลดภาษีนำเข้า สินค้าไอทีจำนวน 153 ราย ลงเหลือ 0% โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ปัจจัยดังกล่าวทำให้มีการคาดการณ์ไว้ว่าตลาดคอมพิวเตอร์จำหน่ายในประเทศจะยังขยายตัว ได้ในระดับที่ดี โดยมีปริมาณจำหน่ายประมาณ 365,7997 เครื่อง มูลค่า 17,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า 21.0% และ 15.8% ตามลำดับ
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจะส่ง ผลกระทบต่อปริมาณการจำหน่ายคอมพิวเตอร์ในประเทศที่เหลือของปี 2543 ชะลอตัวลงก็ตาม แต่ยังมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนนั้นก็คือความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตและอี-คอมเมิร์ซ ประกอบกับสต๊อกสินค้าเดิมมีอยู่ส่วนหนึ่ง ทำให้ผู้ประกอบการทนแบกรับภาระต้นทุนการ ผลิตไว้ และยังไม่ผลักภาระมายังผู้บริโภคด้วยการปรับราคาคอมพิวเตอร์ขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ประกอบการยังมีการนำกลยุทธ์การตลาดมาส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นตลาดใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มกำลังซื้อผู้บริโภคด้วยการให้เครดิต ลด แลก แจก แถม เป็นต้น คาดว่าความต้องการคอมพิวเตอร์จะยังคงเติบโตต่อเนื่องแม้ว่าอัตราเติบโตของยอดขายโดยรวม ทั้งระบบจะชะลอตัวลงไปบ้างจากผลกระทบน้ำมันแพง และค่าเงินบาทที่อ่อนตัวเมื่อเทียบ กับปีที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าการจำหน่ายคอมพิวเตอร์โดยรวมทั้งระบบในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2543 จะยังคงเติบโตต่อไปในอัตรา 9-10% ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรกของปีมีการขยายตัว 14%--จบ--
-สส-