กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--อย.
อย.เข้มรุกงานด้าน GMP หลังจากมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2544 นำคณะสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าศึกษาดูงานระบบ GMP สัมผัสการปฏิบัติงานจริงที่ หจก.คงคาพานิช ผู้ผลิตน้ำดื่มในวันที่ 7 สิงหาคม 2544 หวังให้สื่อได้เข้าใจระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP เพื่อสื่อสารไปยังสาธารณชน อย่างถูกต้อง
ภญ.พรพิมล ขัตตินานนท์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษญ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีนโยบายปรับปรุงระบบการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองผู้บริโภค โดยกำหนดความรับผิดชอบให้ผู้ผลิตอาหารต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต หรือ GMP ซึ่งมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้วตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2544 เป็นต้นไป โดยให้อาหาร 56 ประเภท ทั้งที่เข้าข่ายโรงงานและไม่เข้าข่ายโรงงาน ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ GMP ดังนั้น ผู้ประกอบการรายใหม่จะต้องยื่นขออนุญาตตามระบบใหม่และต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ GMP ทันทีจึงจะได้รับอนุญาต ขณะที่ผู้ประกอบการรายเก่าที่ได้รับอนุญาตอยู่ก่อนแล้ว จะให้โอกาสปรับปรุงมาตรฐานภายใน 2 ปี โดยจะมีผลต่อผู้ประกอบการรายเก่าตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2546 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การบังคับใช้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสื่อมวลชน ที่จะเป็นผู้สื่อข่าวสารไปยังผู้บริโภคและผู้ประกอบการ อย.จึงได้นำคณะสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่เข้าเยี่ยมชมห้างหุ้นส่วนจำกัด คงคาพานิช ตั้งอยู่เลขที่ 19/5 19/3 ซอยมัยลาภ ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตน้ำดื่มขนาดกลางที่ได้มาตรฐาน GMP เพื่อให้สื่อมวลชนเข้าใจระบบ GMP ด้านอาหารได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และได้ศึกษาระบบการผลิตจากการปฏิบัติงานจริง สามารถถ่ายทอดความรู้ไปสู่สาธารณชนอย่างถูกต้อง
สำหรับระบบ GMP นี้เป็นระบบประกันคุณภาพขั้นพื้นฐานสำหรับโรงงานผลิตอาหาร ช่วยให้ผลิตภัณฑ์อาหารนี้มีคุณภาพและความปลอดภัยสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นระบบที่ประยุกต์มาจากหลักการสากล โดยให้สอดคล้องกับสภาพของประเทศไทย ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องจัดทำระบบ GMP ที่ถูกต้องเหมาะสม และต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งสถานที่ตั้งและอาคารผลิต เครื่องมือ เครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิต มีระบบการควบคุมการผลิต การสุขาภิบาล การบำรุงรักษาและการทำความสะอาดที่ได้มาตรฐาน รวมถึงบุคคลากร และสุขลักษณะของผู้ปฏิบัติงานด้วย
ผู้เชี่ยวขาญพิเศษฯ กล่าวต่อไปว่า การนำระบบ GMP มาใช้ในสถานที่ผลิตอาหารในระยะยาวจะเกิดผลดีต่อผู้ประกอบการทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่จะยกระดับมาตรฐานการผลิตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ อันจะนำประโยชน์โดยตรงมาสู่ผู้บริโภคที่จะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย สนองนโยบายรัฐบาลที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งนี้ ถึงแม้กฎหมาย GMP จะมีผลบังคับใช้แล้ว แต่ อย. ไม่หยุดนิ่งจะเดินหน้าส่งเสริมงานให้ความรู้ด้าน GMP แก่ผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้เกิดความเข้าใจวิธีการปฏิบัติตามระบบใหม่ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานตอบคำถามการควบคุมอาหารระบบใหม่ กองควบคุมอาหาร โทร. 0-2590-7211 และ 0-2590-7257-8 ทุกวันในเวลาราชการ หรือรับฟังข้อมูลในสายด่วนผู้บริโภค กดหมายเลขโทรศัพท์ 1556 เลือกรหัส 1401-1413 หรือเปิดเวบไซต์ของ อย.ได้ที่ www.fda.moph.go.th/NewFoodSystem-- จบ--
-นห-