กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานจังหวัดจังหวัดสุโขทัย เตรียมพร้อมรับมือน้ำไหลหลากจากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำยม โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และชุดเคลื่อนที่เร็วให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตรวจสอบและเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำ จัดทำแนวคันกั้นน้ำล้อมรอบสถานที่สำคัญ และกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์ภัย
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลกับกรมชลประทาน พบว่า เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำยมบริเวณอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำยม โดยคาดว่าปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ จะสูงสุดในวันที่ 18 ตุลาคม 2560 เวลา 00.00 – 02.00 น. ปริมาณน้ำ 325 – 640 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดว่าน้ำจะเดินทางถึงสถานีวัดน้ำอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ในวันที่ 18 ตุลาคม 2560 เวลา 08.00 – 10.00 น. ปริมาณน้ำ 825 – 855 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งกรมชลประทานได้เตรียมบริหารจัดการน้ำ โดยบริหารจัดการน้ำสู่คลองหกบาทในอัตรา 200 – 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และควบคุมน้ำผ่านตัวเมืองสุโขทัยไม่เกิน 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย จึงได้ประสานจังหวัดสุโขทัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และชุดเคลื่อนที่เร็วให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที อีกทั้งจัดชุดเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำบริเวณเทศบาลเมืองสุโขทัย รวมถึงจัดทำแนวคันกั้นน้ำล้อมรอบสถานที่สำคัญ และพื้นที่เขตเศรษฐกิจของจังหวัด เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์น้ำไหลหลาก กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐาน หากสถานการณ์รุนแรง ให้พิจารณาอพยพประชาชนไปอาศัยในพื้นที่ปลอดภัย พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารการแจ้งเตือนภัย แนวทางการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐ และแนวทางปฏิบัติตนอย่างถูกต้องและปลอดภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ภัย ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำ การบริหารจัดการน้ำ และพยากรณ์อากาศ รวมถึงปริมาณฝนในพื้นที่ หากมีประกาศเตือนภัยให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด กรณีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทาง สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป