กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--IR network
หุ้นน้องใหม่ บมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ (TITLE) กระแสตอบรับล้นหลาม ขายไอพีโอ จำนวน 120 ล้านหุ้นหมดเกลี้ยง บล.เออีซี ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและอันเดอร์ไรท์ฯมือทอง ชี้เป็นสัญญาณบวก หลังนักลงทุนแห่จองซื้อเพียบ ระบุเป็นผลจากปัจจัยพื้นฐานแน่นปึ้ก!!! ครองมาร์เก็ตแชร์อันดับหนึ่งของหาดราไวย์ จ.ภูเก็ต ,อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง สูงอยู่ที่ประมาณ 50% ทำให้นักลงทุนมองเห็นการเติบโต กำหนดฤกษ์ดีเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 2 พ.ย. นี้ เชื่อไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง ด้านผู้บริหาร "เด่นดนัย หุตะจูฑะ" เผยมีแผนนำเงินทุนใช้พัฒนา โครงการ The Title Residencies Naiyang Phuket และใช้ซื้อที่ดิน พร้อมเชื่อมั่นหลังเข้าตลาดฯจะทำให้ชื่อเสียงของบริษัทฯเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (TITLE) เปิดเผยถึงผลการเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 2.20 บาท ระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคมที่ผ่านมาว่ามีผู้สนใจจองซื้อหุ้นของ TITLE เข้ามาเป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในธุรกิจของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี
"ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่น TITLE ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจที่นักลงทุนมีต่อหุ้น TITLE ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯที่แข็งแกร่ง ครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ของหาดราไวย์ จ.ภูเก็ต ขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) โดดเด่นมากโดยในช่วง 3 ปีย้อนหลัง (2557-2559) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 50 ซึ่งด้วยจุดเด่นดังกล่าวทำให้ TITLE ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ประกอบกับแนวโน้มของตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ต มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก จึงเชื่อมั่นว่าเมื่อหุ้น TITLE เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ จะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน" นายชนะชัย กล่าวในที่สุด
นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ 5 บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าสาเหตุที่ TITLE ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะการกำหนดราคาขายไอพีโอที่ 2.20 บาทต่อหุ้นเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นในการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติหรือกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ ในแต่ละปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ผนวกกับการตกแต่งและดีไซน์ที่สามารถใช้งานได้ตรงกับความต้องการ บรรยากาศภายในโครงการร่มรื่น สไตล์รีสอร์ท จึงตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบัน TITLE มีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติประมาณกว่า 30 ประเทศทั่วโลก
ด้านนายเด่นดนัย หุตะจูฑะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (TITLE) เปิดเผยว่าขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านเป็นอย่างมากที่ให้ความสนใจร่วมลงทุนกับ TITLE เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการ The Title Residencies Naiyang Phuket ภายในปี 2560 และเพื่อใช้ในการซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการในอนาคต ภายในปี 2561
"ผลจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้ชื่อเสียงของ บมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ หรือ TITLE เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้นและเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัท นอกจากนี้ ยังทำให้มีเม็ดเงินเพิ่มมากขึ้นสำหรับที่จะนำไปพัฒนาโครงการและซื้อที่ดินเพื่อรองรับโครงการในอนาคต ซึ่งจะสร้างการเติบโตของบริษัทฯ ได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป" นายเด่นดนัย กล่าว
นายศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว กรรมการบริหาร/กรรมการผู้จัดการ สายงานวางแผนและควบคุม บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (TITLE) กล่าวว่าแผนการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตของ TITLE มีมูลค่ารวมประมาณ 1,295 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโอกาสทางธุรกิจในการขยายฐานรายได้และขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น ซึ่งนับเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่จะทำให้บริษัทเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันได้มากขึ้นจากเงินทุนที่ได้รับมาทำให้มีความแข็งแกร่งทางการเงินและมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น รวมถึงมีโอกาสที่จะขยายตัวได้อย่างโดดเด่นทั้งในส่วนของรายได้และกำไร ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่า เมื่อหุ้น TITLE เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) แล้วจะสามารถเป็นหุ้นขวัญใจของลงทุนได้