กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--อย.
อ.ย.ชี้แจงกรณีผู้ป่วย 52 รายทั่วโลกเสียชีวิตเนื่องจากการสลายตัวของกล้ามเนื้อลายหลังการใช้ยาลดโคเลสเตอรอล "ลิโปเบ" และผู้ผลิตจำหน่ายยุติการจำหน่ายยานี้ในเกือบทุกประเทศในโลกรวมทั้งในประเทศไทยซึ่งยังไม่มีรายงานการป่วยหรือเสียชีวิตเนื่องจากยาดังกล่าว
น.พ วิชัย โชควิวัฒน เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับยา ลิโปเบ (Lipobay) ว่า ยาลิโปเบ เป็นยาลดโคเลสเตอรอลในกลุ่มสเตติน มีตัวยาสำคัญคือ เซริวาส เตติน (Cerivastatin) ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์ไปยับยั้งการสังเคราะห์โคเลสเตอรอล มีขึ้นทะเบียนในประเทศไทย 4 ขนาดความแรง ได้แก่ Cerivastatin sodium ขนาด 0.2, 0.3, 0.4 และ 0.8 มิลลิกรัม ซึ่งขนาดความแรงสูง สุด 0.8 มิลลิกรัม ยังไม่มีการนำสั่งเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จากรายงานอาการไม่พึงประสงค์จาการใช้ยานี้ในต่างประเทศ พบว่าทำให้เกิดความผิดปกติของกล้ามเนื้อ (Myopathy) ได้แก่อาการปวดกล้ามเนื้อกล้ามเนื้อผิดปกติ ไวต่อการสัมผัส กล้ามเนื้ออ่อนแรง และกล้ามเนื้อลายสลายตัว (Rhabdomyolysis) ในกรณีรุนแรงอาจนำไปสู่อาการไตวายและทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ รายงานดังกล่าวพบว่ามีการตายเนื่องจากการสลายตัวของกล้ามเนื้อลาย (Fatal Rhabdomyolysis) ประมาณ 52 ราย ทั่วโลก ซึ่งเป็นผู้ป่วยในสหรัฐอเมริกา 31 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับอันตรายจากการใช้ยานี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่ใช้ยาลิโปเบในขนาดสูงหรือในผู้ป่วยสูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื้อใช้ยานี้ร่วมกับยาลดไขมัน เจมไฟโบรซิล (Gemfibrozil) ซึ่งในเอกสารกำกับยาของยาลิโปเบ ระบุข้อห้ามใช้ยาเวริวาสเตตินร่วมกับยาเจมไฟโบรซิล อยู่แล้ว ขณะนี้บริษัท ไบเออร์ ผู้ผลิตจำหน่ายยาลิโปเบได้ยุติการจำหน่ายยานี้ในเกือบทุกประเทศทั่วโลกแล้ว
สำหรับรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยานี้ในประเทศไทย ยังไม่พบอาการกล้ามเนื้อลายสลายตัว พบเพียงอาการปวดกล้ามเนื้อ (Myalgia) 2 ราย ซึ่งหายเป็นปกติเมื่อหยุดยา อย่างไรก็ตามทาง บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด ได้แจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอยุติการจำหน่ายยาลิโปเบ ในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวแล้ว และในส่วนของอย. จะดำเนินการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อประกอบการพิจารณาทบทวนทะเบียนตำรับยาลิโปเบอย่างเหมาะสมต่อไป
น.พ. วิชัย โชควิวัฒน กล่าวในตอนท้ายว่า การใช้ยาลดไขมันในกลุ่มสเตติน ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังสูง หากใช้แล้วมีอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามแขนขา หรือปวดหลัง ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้นควรหยุดใช้ หากจำเป็นต้องใช้ยา ควรใช้ตามขนาดที่กำหนดและระมัดระวังเมื่อใช้ร่วมกับยาอื่นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนเสมอ ทั้งนี้การควบคุมอาหารโดยการเลือกรับประทานอาหารอย่างเหมาะสมและออกกำลังกายตามสมควร น่าจะเป็นวิธีการลดไขมันที่ดีและปลอดภัยกว่าการพึ่งยา--จบ--
-นห-