กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--การประปาส่วนภูมิภาค
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ยืนยันคุณภาพน้ำประปาได้มาตรฐาน สามารถใช้อุปโภคบริโภคได้ตามปกติ เนื่องจากยังไม่มี กปภ.สาขาใดได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น
นายสมชาย มนต์บุรีนนท์ รองผู้ว่าการ(วิชาการ) รักษาการแทนผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายภูมิภาคทั่วประเทศ กปภ. ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อคุณภาพน้ำดิบและระบบผลิตส่งจ่ายน้ำประปาไปยังบ้านเรือนประชาชนให้น้อยที่สุด โดยได้เตรียมแผนบริหารจัดการเพื่อเฝ้าระวังเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการตรวจสอบดูแลมาตรฐานการผลิตและจ่ายน้ำประปาอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกำชับผู้จัดการ กปภ. 234 สาขา ให้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางจังหวัด เพื่อเฝ้าระวังและวางมาตรการเตรียมความพร้อมในจุดที่มีความเสี่ยง ซึ่งขณะนี้ กปภ. 234 สาขา ยังสามารถผลิตน้ำประปาได้ตามปกติ มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้น้ำ และมีคุณภาพตามมาตรฐานคุณภาพน้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยมีการติดตามเฝ้าระวังและตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำจากห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ (Lab Cluster) ที่ได้รับการรับรองระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการ ISO/IEC 17025:2005 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กปภ. จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในคุณภาพน้ำประปาที่ผ่านการควบคุมตามมาตรฐานว่ามีความปลอดภัยสำหรับอุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน
รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่เกิดอุทกภัยและจำเป็นต้องย้ายออกจากที่พักอาศัยชั่วคราว ขอแนะนำให้ผู้ใช้น้ำปิดวาล์วน้ำก่อนออกจากบ้าน เพื่อเป็นการป้องกันเบื้องต้น นอกจากนี้ ภายหลังน้ำลดผู้ใช้น้ำยังสามารถตรวจสอบท่อแตกรั่วภายในบ้านเบื้องต้นได้ด้วยตนเองด้วยวิธีการง่าย ๆ โดยการปิดก๊อกน้ำทุกตัวภายในบริเวณบ้าน และสังเกตมาตรวัดน้ำ หากพบว่ามาตรวัดน้ำยังหมุนอยู่แสดงว่ามีท่อรั่วภายในบ้านต้องรีบหาจุดรั่วไหลและซ่อมแซมเพื่อไม่ให้สูญเสียน้ำไปโดยไร้ประโยชน์และเป็นการสิ้นเปลืองค่าน้ำที่ต้องจ่ายหากมีการรั่วไหลเกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้สามารถขอคำแนะนำในกรณีที่มีปัญหาการใช้น้ำได้ที่ กปภ.สาขาในพื้นที่ หรือ PWA Contact Center โทร 1662