กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
· สาธิตฯพระจอมเกล้า จัดกิจกรรมโอเพ่นเฮาส์ เปิดห้องการเรียนรู้ยุคใหม่ ชู 4 โมเดลจิ๊กซอว์ชิ้นใหญ่ ต่อเติมทักษะเด็กไทยสู่สมาร์ทพีเพิล ผนวกแนวคิด "ความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน"
โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า (KMIDS) โชว์ความสำเร็จนวัตกรรมด้านหุ่นยนต์จากนักเรียนด้วยแรงบันดาลใจจากศาสตร์แห่งพระราชา ได้แก่ ผลงาน Multicore Cable Fit-Outing Robot หรือหุ่นยนต์เดินสายสาธารณูปโภคใต้ดิน และผลงาน Aquabot หรือหุ่นยนต์เพื่อการปลูกปะการังเทียม เตรียมเข้าสู่การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ระดับโลก ณ ประเทศคอสตาริกา ทั้งนี้ปัจจุบันโรงเรียนได้สอดแทรกและปลูกฝังองค์ความรู้เรื่อง "ความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน" ผสมผสานการเรียนที่สามารถผลิตนักเรียนให้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมด้วย 4 องค์ประกอบได้แก่ FACILITIES การมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยภายใต้ซูเปอร์สมาร์ทคลาสรูม ACTIVITIES and CURRICULUM กิจกรรมและหลักสูตรที่สอดคล้องกับทิศทางของภาคธุรกิจและการบ่มเพาะนักนวัตกรรม STUDENTS and TEACHERS การพัฒนาบุคลากรให้มีคุณค่าและเติมเต็มความร่วมมือซึ่งกันและกัน และTECHNOLOGY and INNOVATIONS การสนับสนุนนักเรียนให้รู้จักและคุ้นชินกับเทคโนโลยีและดิจิทัลอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ ยังได้จัด KMIDS OPEN HOUSE 2017 กิจกรรมการแนะแนวหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติด้านวิทยาศาสตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย เมื่อเร็วๆนี้ ณ อาคารโรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
รศ.ดร.สุรินทร์ คำฝอย ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า (KMIDS) กล่าวว่า โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า ตระหนักถึงการบ่มเพาะและปลูกฝังองค์ความรู้ที่เน้นเรื่อง "ความก้าวหน้าที่ยั่งยืน" ผ่านระบบการเรียนการสอนแบบสะตีม (STEAM) ตามมาตรฐานของสหรัฐอเมริกามาเป็นหลักสูตรเพื่อให้นักเรียนเกิดความฉลาดรู้ ความเข้าใจ และมุมมองใหม่ๆที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยการผสมผสานองค์ความรู้ศาสตร์และศิลป์แขนงต่างๆที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาอย่างรอบด้าน ให้เยาวชนเป็นนักนวัตกรรมที่มีแก่นแท้ของการพัฒนาสังคมที่สมดุล และ "ยั่งยืน" ที่น้อมนำมาจาก แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ที่ขณะนี้องค์การสหประชาชาติและทั่วโลกก็กำลังกระตุ้นให้ทั่วโลกคำนึงถึงด้านดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ โดยผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมที่โรงเรียนได้แสดงให้เห็นคือ ผลงานสิ่งประดิษฐ์ของนักเรียนในโรงเรียน อันได้แก่ ผลงาน Multicore Cable Fit-Outing Robot หรือหุ่นยนต์เดินสายสาธารณูปโภคใต้ดิน และ ผลงาน Aquabot หรือหุ่นยนต์เพื่อการปลูกปะการังเทียม ซึ่งทั้ง 2 ผลงาน คว้ารางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศ และจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการเข้าสู่การแข่งขัน โอลิมปิกหุ่นยนต์ระดับโลก (WRO 2017) ณ เมืองซานโฮเซ ประเทศคอสตาริกา
รศ.ดร.สุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า ได้ตั้งเป้าในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและผลิตเยาวชนให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในยุคดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยได้กำหนดการพัฒนา 4 องค์ประกอบให้เป็นจุดแข็งของทางโรงเรียน เพื่อบ่มเพาะเยาวชนที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุดของประเทศและภูมิภาค และทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ได้แก่ 1.FACILITIES โดยมุ่งสร้างแหล่งเรียนรู้ที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆที่ทันสมัย มีความเป็นซูเปอร์สมาร์ทคลาสรูมและผสานให้เข้ากับเทคโนโลยีแบบองค์รวม 2.ACTIVITIES and CURRICULUM หลักสูตรการเรียนการสอนในรูปแบบ Learning by Doing ที่สอดคล้องกับทิศทางของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม 3.STUDENTS and TEACHERS บทบาทของครูในโรงเรียน จะมีคุณลักษณะแบบ Teaching และ Coaching เป็นผู้นำนักเรียนให้เกิดการเรียนรู้ควบคู่ไปกับความสนุกสนาน มี 4.TECHNOLOGY and INNOVATIONS การส่งเสริมนักเรียนให้รู้จักและคุ้นชินกับเทคโนโลยีและดิจิทัลอย่างเข้มข้น
นอกจากนี้สถาบันยังได้ปรับกระบวนการทำงานแบบ Co - Working และ Co – Creation ซึ่งแนวทางการทำงานนี้เป็นการร่วมมือกันสรรค์สร้างทิศทางหลักสูตร และสนับสนุนข้อมูลระหว่างกันเพื่อให้ผลผลิตจากสถาบันการศึกษาตรงกับความเปลี่ยนแปลงและตอบโจทย์ทุกภาคส่วนในยุคดิจิทัลมากที่สุด อย่างไรก็ตามในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สจล.ได้ดำเนินการตามทิศดังกล่าวด้วยการสร้างทั้งการร่วมมือกับภาคธุรกิจ สถาบันการศึกษา ตลอดจนองค์กรในระดับชั้นนำของโลก เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนงานวิจัย การเชื่อมโยงบุคลากรในการถ่ายทอดองค์ความรู้ ทั้งยังได้สร้างสรรค์สถาบัน วิทยาลัย และผลงานนวัตกรรมใหม่ๆที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นให้สอดรับกับความต้องการของโลกในอนาคต โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของโรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้าจะเป็นการสร้างประโยชน์ในด้านความต่อเนื่องในวงการวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมที่สถาบันจะบ่มเพาะและปลูกฝังจิตวิญญาณและความสามารถให้เด็กเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญและเก่งตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งหลังจากที่นักเรียนเหล่านี้สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานและเข้าสู่ระดับอุดมศึกษาแล้ว จะมีความโดดเด่นในด้านนวัตกรรมที่จะช่วยตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ 4.0 ของประเทศไทยตลอดจนนโยบายเศรษฐกิจของแต่ละประเทศทั่วโลกได้อย่างครอบคลุม
ทั้งนี้ โรงเรียนจึงได้จัด KMIDS OPEN HOUSE 2017 กิจกรรมการแนะแนวหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติด้านวิทยาศาสตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและนักเรียนได้ร่วมสัมผัสบรรยากาศโรงเรียนยุคใหม่ที่มีเครื่องมือและสื่อการสอนที่ทันสมัย พร้อมด้วยไฮไลท์สุดยอดหลักสูตรนานาชาติที่มุ่งเน้นการสร้างนักนวัตกรรมด้วยมาตรฐานระดับโลก อาทิ หลักสูตร STEAM หลักสูตร STEM With ROBOTICS พร้อมด้วยกิจกรรม School Tour กับการเปิด 11 ห้องแห่งการเรียนยุคใหม่ที่จะช่วยสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนก้าวหน้าไปสู่โลกยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจและนวัตกรรม อาทิ ห้อง Lab มาตรฐานระดับสากล ห้องเรียนหุ่นยนต์ (STEM WITH ROBOTICS CLASS) ห้องแห่งการเติมเต็มอนาคตที่จัดโดยคณะวิชาเปิดใหม่ของ สจล. เช่น ภาควิชาวิศวะการบิน, แพทยศาสตร์นานาชาติ เป็นต้น รศ.ดร.สุรินทร์ กล่าวปิดท้าย
ด้านนางสาวณจรีย์ จันทร์เจิดศักดิ์ ตัวแทนนักเรียนชั้นเกรด 10 ผู้ผลิตผลงาน Multicore Cable Fit-Outing Robot หรือหุ่นยนต์เดินสายสาธารณูปโภคใต้ดิน กล่าวว่า สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวเป็นต้นแบบก่อนที่จะพัฒนาสู่หุ่นยนต์ขนาดใหญ่เพื่อการทำงานหนักบนพื้นที่ที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงได้หรือเข้าถึงได้ยาก โดยหุ่นจะประกอบไปด้วอุปกรณ์ 2 ชุด คือ ชุดที่ 1 จะเป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็กที่ทำหน้าที่ในการนำหน้าเพื่อสำรวจอุปสรรคของพื้นดินและใต้ดินโดยมีเซ็นเซอร์ในการตรวจจับพร้อมวิเคราะห์ออกมาในรูปของแผนที่ เพื่อให้หุ่นยนต์ ชุดที่ 2 ที่เป็นหุ่นยนต์ใหญ่ทำหน้าที่ในการเดินเครื่องขุดดิน พร้อมฝังกลบสาย Multicore ซึ่งประกอบด้วย สายโทรศัพท์ สายไฟฟ้า ท่อประปา และแก๊สธรรมชาติลงบริเวณใต้ดินในเวลาเดียวกัน ในการร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานนี้ขึ้น โดยทางทีมหวังที่จะสานต่อแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในชนบทห่างไกลที่ยังไมได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นด้วยการเข้าไปช่วยเหลือด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทางเศรษฐกิจเบื้องต้น เช่น การประปา ไฟฟ้า ถนน ฯลฯ พร้อมสานต่อการพัฒนาด้านดินที่พระองค์ทรงมุ่งให้เกิดการการใช้ดินและพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด
และเด็กชายเทพมงคล พันธุ์กระทึก ตัวแทนนักเรียนชั้นเกรด 7 ผู้ผลิตผลงาน Aquabot หรือหุ่นยนต์เพื่อการปลูกปะการังเทียม กล่าวว่า ตนเองได้แรงบันดาลใจจากโครงการในพระราชดำริด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำหรับปัจจุบัน แนวปะการังน้ำตื้นของไทยและทั่วโลกจำเป็นอย่างมากที่จะต้องได้รับการฟื้นฟู ซึ่งหุ่นยนต์ Aquabot สามารถทำหน้าที่แบ่งเบาแรงงานมนุษย์ในการช่วยปลูกปะการังเทียมเพื่อให้สามารถใช้เป็นที่อยู่ของสัตว์น้ำใต้ทะเล โดยที่หุ่นยนต์จะมีคุณสมบัติพิเศษในเรื่องของความรวดเร็วและประสิทธิภาพด้านความแม่นยำที่มากกว่า ทั้งยังเป็นหุ่นยนต์ที่มีความแข็งแรงทนทาน มีความสามารถในการต้านทานกระแสน้ำ ปลอดภัย ไม่ทำลายระบบนิเวศและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยคาดว่าจะช่วยให้ให้ปะการังและสิ่งมีชีวิตเริ่มฟื้นคืนและเป็นสีสันของท้องทะเล ช่วยเพิ่มแหล่งอาหารและความสมดุลและลดความรุนแรงของคลื่นที่มีผลต่อการกัดเซาะพังทลายของชายฝั่ง ทั้งยังจะช่วยฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวให้กลับมาสวยงามมีชีวิตชีวา ต่อเนื่องไปถึงการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน
โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า ได้จัด KMIDS OPEN HOUSE 2017 ไปเมื่อเร็วๆนี้ ณ อาคารโรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า ถ.ฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ สำหรับผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจสมัครเข้าศึกษาต่อ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มติมได้ที่ ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า โทรศัพท์ 085 – 9174242 หรือเข้าไปที่ www.kmids.ac.th /Facebook Fanpage : KMIDS