กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--ชม พีอาร์
ถึงไม่ฟุ่มเฟือย แต่ก็เต็มที่กับสิ่งที่ชอบ ใช้จ่ายไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลัง รวมถึงการนำเอาเงินในอนาคตมาใช้(บัตรเครดิต)ใครเป็นแบบนี้ มั่นใจได้เลยว่า ไม่มีเงินเก็บเงินออม แน่นอน
ยิ่งถ้าเป็น "มนุษย์เงินเดือน"อย่างเราๆ แค่ขอให้ใช้จ่ายอย่าเกินเงินเดือนที่ได้รับก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว และแบบนี้ จะมีเงินเก็บเหมือนคนอื่นๆ ได้เมื่อไรหล่ะ?
เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เลย... ไม่มีคำว่าสายเกินไป สำหรับการเริ่มต้น "ออมเงิน" "เก็บเงิน"
หากใครยังตั้งต้นไม่ได้ งั้นถือฤกษ์ประเดิมชัยกับวันออมแห่งชาติ 31 ตุลาคม ปีนี้กันได้เลย โดยเฉพาะ ชาวมนุษยเงินเดือนทุกท่านหากไม่มีการจัดการกับรายได้ของตัวเองให้ดี เงินที่หามาได้ในแต่ละเดือนนั้น ไม่พอใช้และไม่เหลือเก็บเหลือออม ดังนั้น มนุษย์เงินเดือนแต่ละคนนั้น ต้องมีการบริหารเงินเพื่อให้มีเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งหลักในการ ออมเงิน สำหรับมนุษย์เงินเดือน นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่อาศัยหลัก"ออม-เปิด-ลงทุน" ที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนนั้นสามารถทำได้ไม่ยุ่งยาก
1. "ออม" ก่อนใช้ หักไว้ทันที
เมื่อถึงสิ้นเดือน เงินเดือนที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงเข้าในบัญชี ให้รีบแบ่งเงินส่วนหนึ่งเก็บ โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารอีกบัญชีทันที และส่วนที่เหลือนั้นค่อยนำมาแบ่งเป็นรายจ่ายต่างๆ เช่น รายจ่ายส่วนตัว ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รอสำรวจดูว่าเราน่าจะสามารถแบ่งหรือวางแผนที่จะออมเงินในแต่ละเดือนได้กี่เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน เราอาจจะเริ่มต้นที่ 10 % ก่อนก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี และค่อยขยับ เป็น 20-30% ตามกำลังความสามารถ เพียงเริ่มแบ่งเงินออมก่อนใช้ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับอนาคตในวันข้างหน้าแล้ว
2. "เปิด" บัญชีเพื่อออม บัญชีเพื่อใช้
จากหลักในการออมข้อที่ 1 เงินเดือนออก แบ่งเก็บออมก่อนใช้ เมื่อแบ่งเงินออม และเงินเพื่อใช้ ออกตามกำลังของเราเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เปิดบัญชี ทั้งนี้เพื่อเป็นการจัดระเบียบในการใช้เงินในบัญชี ซึ่งบัญชีแต่ละบัญชีนั้นก็จะมีความสำคัญที่แตกต่างกันออกไป
•บัญชีเพื่อใช้จะเป็นการแบ่งเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สามารถฝากถอน โอนเงิน จ่ายบิล ค่าใช้จ่าย ได้ตลอดเวลา
•บัญชีเพื่อออม มองหาสถาบันการเงินที่ให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงไม่ซ่อนเงื่อนไขเปิดบัญชีเพื่อออมนี้ไว้ และอาจจะแบ่งบัญชีเพื่อออมนี้ เป็นระยะสั้น กลาง ยาว เพื่อเป็นการวางแผนการเงินในอนาคตของเราได้ดีขึ้น เช่น บัญชีออมระยะสั้น เป็นการออมเพื่อต้องการใช้เงินฉุกเฉิน เช่น ตกงาน เป็นต้น บัญชีออมระยะกลางเพื่อออมเงินไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นหรือเป็นการออมเพื่ออนาคตข้างหน้า เช่น การซื้อบ้าน คอนโด รถ เงินในบัญชีออมระยะกลางนั้นมากกว่าออมแบบระยะสั้นนั่นเอง บัญชีออมเงินระยะยาวนั้นถือว่าสำคัญมากๆ เป็นการวางแผนในการออมเงินว่าอีก 30-40 ข้างหน้า เพื่อวัยเกษียณเพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน จะได้มีเงินใช้จ่ายได้อย่างสบาย
แนะนำเพิ่มเติม ให้เปิดเป็นบัญชีของธนาคารเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อประหยัดค่าธรรมเนียมในการโอนเงินและสะดวกสบาย ไม่ยุ่งยาก หากจำเป็นที่จะต้องไปติดต่อทำธุรกรรมกับทางธนาคาร
3. ลงทุนให้งอกเงย
ต่อจากหลักการออมข้อที่ 2 เมื่อเปิดและแบ่งบัญชีเพื่อออม และเพื่อใช้เรียบร้อยแล้ว หลักของการลงทุนจะเข้ามา ควรศึกษาหรือมองหาวิธีที่จะทำให้เงินที่ออมนั้นงอกเงยเพิ่มดอกเพิ่มผล เช่น การลงทุนหุ้น หรือลงทุนในกองทุนรวม ที่มีความเสี่ยงน้อย และมีผลประโยชน์ที่น่าสนใจ เช่น มนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องมีเรื่องภาษี ซึ่งเราสามารถนำเงินออมนี้ไปใช้สิทธิในเรื่องของการลดหย่อนภาษีในกองทุน LTF / RMF หรือแม้กระทั่งการซื้อประกันชีวิตในลักษณะของการออมเงินระยะยาวพร้อมให้ความคุ้มครอง เป็นต้น
การลงทุนทุกรูปแบบมีข้อดี ข้อเสียในตัวเสมอ เราควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
การเริ่มต้นการออมไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเริ่มต้น "ออม- เปิด-ลงทุน" คุณก็ทำได้ วางแผนดีชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ
สนับสนุนเคล็ดลับทางการเงินดี โดย TMB All Free