กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--โรงพยาบาลพระรามเก้า
โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง นับว่าเป็นอีกโรคที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากต่อมน้ำเหลืองในร่างกายของคนเรามีมากมายหลายจุด ดังนั้น หากพบมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเร็ว รักษาได้ทัน รักษาอย่างถูกวิธี มีโอกาสหายได้
นายแพทย์ไนยรัฐ ประสงค์สุข อายุรแพทย์ด้านมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลพระรามเก้า อธิบายว่า มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยทั่วโลก มักเกิดกับเนื้อเยื่อต่อมน้ำเหลือง ที่กระจายอยู่ทั่วร่างกาย ซึ่งหากคลำพบต่อมน้ำเหลืองโตหรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ ในการหาสาเหตุและการรักษาจากสถิติมะเร็งชนิดนี้ เป็นมะเร็งระบบเลือด ที่พบได้มากที่สุดในประเทศไทยและในโลก ติดอันดับ 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย โดยมีผู้ป่วยใหม่ที่ได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ปีละกว่า 1,000 คน และสามารถเกิดขึ้นในทุกกลุ่มวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง จัดเป็นโรคมะเร็งของระบบโลหิตวิทยา ที่สามารถกระจายตามต่อมน้ำเหลืองในร่างกาย เช่น บริเวณลำคอ รักแร้ ขาหนีบ ข้อพับแขน ข้อพับขา ในช่องอก และในช่องท้อง เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ในทุกอวัยวะของร่างกาย โรคนี้จะมีอาการในระยะแรกๆ คือ มีต่อมน้ำเหลืองตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งโต มักพบที่ลำคอ คลำได้ ไม่รู้สึกเจ็บ แต่เมื่อโรคลุกลาม อาจมีอาการอ่อนเพลีย ซีด หรือเมื่อเกิดกับอวัยวะอื่นๆ ที่ไม่ใช่ต่อมน้ำเหลืองจะมีอาการเหมือนอวัยวะนั้นๆ อักเสบ เช่น เมื่อเกิดกับสมองอาจปวดศีรษะ อาเจียน แขนขา อ่อนแรง หรือปวดท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อเรื้อรัง เมื่อเกิดกับกระเพาะอาหาร ส่วนผู้ป่วยบางรายอาจมีไข้เรื้อรัง โดยไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่อาจมีไข้สูงเป็นๆ หายๆ เหงื่อออกชุ่มตัวในตอนกลางคืน และน้ำหนักลดลงจากเดิมประมาณร้อยละ 10 ใน 6 เดือน เป็นอย่างน้อย ส่วนสาเหตุของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองยังไม่ทราบแน่ชัด โดยปกติระบบน้ำเหลืองของร่างกายมีหน้าที่ต่อสู้เชื้อโรค โดยการขนส่งน้ำเหลืองไปตามหลอดน้ำเหลืองทั่วร่างกาย เมื่อต่อมน้ำเหลืองทำงานผิดปกติ ปัญหาที่สำคัญคือ ภูมิคุ้มกันต่ำลง ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย สำหรับวิธีการรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง จะใช้วิธีการตรวจหาชนิดของมะเร็งและระยะของโรค ซึ่งอาจใช้วิธีการรักษาเพียงวิธีเดียวหรือใช้แบบผสมผสาน ทั้งนี้โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นโรคที่เซลล์มะเร็งตอบสนองได้ดีต่อยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ดังนั้นเมื่อเทียบกับโรคมะเร็งอื่นๆ จึงมีความรุนแรงค่อนข้างต่ำ และมีโอกาสรักษาหายขาดได้ ส่วนวิธีการดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ นอนหลับให้เพียงพอ เพิ่มโภชนาการทางด้านอาหาร อาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยควรเป็นอาหารที่สุก สะอาด ย่อยง่าย ง่ายต่อการเคี้ยวกลืน และมีเส้นใยสูงจากผักสด และการรับประทานผลไม้ควรปอกเปลือกออก เพื่อป้องกันสารตกค้าง การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รักษาความสะอาดในช่องปาก ที่สำคัญการได้รับกำลังใจจากคนในครอบครัวและเพื่อน เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ที่จะมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคต่อไป