กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--กรมสุขภาพจิต
นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้กล่าวถึงภาพรวมของการดูแลจิตใจพี่น้องปวงชนชาวไทย จากการจัดทีมปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ หรือ MCATT (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team) ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ให้บริการปฐมพยาบาลทางใจ ด้วยหลัก 3ส. (สอดส่องมองหา ใส่ใจรับฟัง ส่งต่อเชื่อมโยง) พบว่า เกิดภาวะสุขภาพจิตไม่มากเมื่อเทียบกับปัญหาสุขภาพทางกาย เช่น ภาวะเครียด หายใจเร็ว ป่วยโรคจิตเวช ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยจิตเวชเดิมและได้มีการส่งต่อเข้าสู่ระบบการดูแลรักษาเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ นับว่าคนไทยมีความเข้มแข็งทางใจมากยิ่งขึ้น ที่ถึงแม้พระองค์จะจากไป ทำให้โศกเศร้า ว้าเหว่ อ้างว้าง ใจหาย แต่คนไทยยังมีความหวังมีพลังใจที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ด้วยการปรับตัวเตรียมใจ แปลงความโศกเศร้าเป็นพลังทำความดี สืบสานพระราชปณิธาน ดังเห็นได้จากภาพการแสดงออกถึงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ ด้วยความสมัครสมานสามัคคี มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นจิตอาสา ดูแลช่วยเหลือกันและกัน ที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการส่งเสริมให้มีการแสดงความรู้สึกของตนเองได้อย่างเต็มที่ผ่านพิธีกรรมของรัฐ ทุกศาสนาและชุมชน ดังการมีส่วนร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ครั้งนี้ ตลอดจนการจัดกิจกรรมไว้อาลัย สวดมนต์และพิธีกรรมของแต่ละศาสนา รวมทั้งการให้เล่าความประทับใจที่มีต่อพระราชกรณียกิจ การได้มีส่วนร่วมทำสิ่งดีงาม ทำกิจกรรมสาธารณกุศล ร่วมสืบทอดพระราชปณิธาน เป็นต้น ที่ย่อมช่วยให้สภาพจิตใจฟื้นคืนได้เร็วยิ่งขึ้น
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า พระองค์ยังคงสถิตในดวงใจปวงชนชาวไทยตราบนิรันดร์ ยังทรงเป็นกำลังใจให้พวกเราได้ฟันฝ่าอุปสรรคพร้อมต่อสู้กับทุกปัญหาในการดำเนินชีวิต ดังนั้น นับจากนี้ จึงอยากขอให้พวกเรามองไปข้างหน้าที่จะช่วยให้เกิดพลังใจและความหวังในการก้าวผ่านความโศกเศร้าและวิกฤติต่างๆ ไปได้อย่างรวดเร็ว ช่วยทำให้เราฮึดขึ้นมาได้ เพียงเชื่อมั่นว่า ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และในยามนี้พวกเราก็ยังมีความหวังและกำลังใจที่ดีจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่จะร่วมสืบทอดพระราชปณิธานของในหลวง รัชกาลที่ 9 ต่อไป
"หากเราทุกคนมองย้อนกลับไป ในวันที่พระองค์ท่านเคยสูญเสีย พระองค์ท่านยังทรงทุ่มเทพระวรกายอย่างเต็มที่ เพื่อพวกเรา ปวงชนชาวไทย พระองค์จึงทรงเป็นแบบอย่างความเข้มแข็งทางจิตใจอย่างเห็นได้ชัด และทรงเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพวกเราในทุกๆ ด้าน การมุ่งมั่นที่จะสืบทอดสิ่งดีงามตลอด 70 ปี ของพระองค์ เช่น การปฏิบัติตนเป็นคนดี การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง มีความอดทน รู้รักสามัคคี ใฝ่หาความรู้ ไม่ท้อถอย ดังที่พระองค์สอนพวกเราด้วยการกระทำมาโดยตลอด หากน้อมนำมาปฏิบัติ ย่อมทำให้พวกเรามีความสุข ความเจริญ และประสบผลสำเร็จ เมื่อใดก็ตามที่พระองค์ทรงมองกลับลงมา แล้วได้เห็นการดำเนินชีวิตของพวกเราเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น พระองค์ย่อมมีความสุขเช่นกัน"
อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนหรือบุคคลรอบข้างยังคงรู้สึกเศร้า หดหู่ มีอาการวูบวาบ หายใจไม่อิ่ม ใจสั่น นอนไม่หลับ จน ทำงานไม่ได้ ขอให้ไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือปรึกษาอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323ได้ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว