กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--EXIM BANK
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แถลงผลการดำเนินงานประจำปี 2560 ในรอบ 9 เดือน ว่า EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 1,016 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างจำนวน 84,937 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 10,469 ล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อใหม่ที่เบิกจ่ายเพิ่มขึ้นในระหว่างปีจำนวน 18,576 ล้านบาท และมีการชำระคืนของสินเชื่อเดิมบางส่วน ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) 115,718 ล้านบาท รวมทั้ง EXIM BANK ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ให้แข่งขันได้มากขึ้นทั้งทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยมีปริมาณธุรกิจของ SMEs เท่ากับ 74,034 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้างแก่ SMEs 35,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5,023 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.27 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (NPL Ratio) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 อยู่ที่ร้อยละ 3.96 โดยมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 3,367 ล้านบาท ลดลง 407 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 7,683 ล้านบาท โดยเป็นสำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 3,413 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองที่กันไว้แล้วต่อสำรองพึงกันร้อยละ 225.07 ทำให้ธนาคารยังคงดำรงฐานะการเงินที่มั่นคง
นอกจากนี้ EXIM BANK ได้ทำหน้าที่เป็นองค์กรรับประกัน ให้บริการประกันการส่งออก เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ส่งออกไทยในการขยายตลาดไปยังคู่ค้าหรือตลาดใหม่ๆ และช่วยให้ผู้ส่งออกไทยแข่งขันได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากคู่ค้าในต่างประเทศ ใน 9 เดือนแรกของปี 2560 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและประกันเสี่ยงลงทุนเท่ากับ 50,899 ล้านบาท โดย 8,804 ล้านบาทเป็นธุรกิจส่งออกของ SMEs หรือร้อยละ 17.30 ของปริมาณธุรกิจสะสมรวม รวมทั้งมียอดคงค้างของการรับประกันการส่งออกและประกันความเสี่ยงลงทุน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 จำนวน 20,478 ล้านบาท
สำหรับการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังต่างประเทศ ปัจจุบัน EXIM BANK มีวงเงินที่ให้การสนับสนุนแก่สินเชื่อโครงการระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้น 67,079 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 จำนวน 35,555 ล้านบาท อีกทั้ง EXIM BANK ยังมุ่งเน้นการขยายฐานการค้าและการลงทุนในตลาดใหม่อย่าง CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 EXIM BANK ได้เปิดสำนักงานผู้แทนในย่างกุ้ง เมียนมา รวมทั้งมีแผนจะเปิดสำนักงานผู้แทนใน สปป.ลาว และกัมพูชาต่อไป
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK ยังมุ่งเน้นการดำเนินการตามแผนแม่บท ปี 2570 และกระบวนการปรับเปลี่ยนองค์กรอย่างต่อเนื่องจากในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา โดยใช้จุดแข็งในการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่มีภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออก การนำเข้า และการลงทุน ทำงานร่วมกับพันธมิตร ผ่านโครงการความร่วมมือต่างๆ อาทิ การส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย-เมียนมาร่วมกับธนาคารคันบาวซา (Kanbawza Bank: KBZ BANK) ความร่วมมือกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และบริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด (เซ็นทรัลแล็บไทย) เพื่อส่งเสริมศักยภาพและรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของ SMEs เพื่อการส่งออก และเป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้าแบรนด์ไทย และความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และกระทรวงอุตสาหกรรม ออกมาตรการเพิ่มขีดความสามารถและส่งเสริมความรู้ให้กับ SMEs ในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น
"EXIM BANK ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับภาครัฐและเอกชน เพื่อช่วยให้ผู้ส่งออกไทยแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งขยายฐานการผลิตเข้าไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ท่ามกลางโอกาสทางธุรกิจที่ยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะในตลาด CLMV ที่มีกำลังซื้อและความต้องการสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีความคุ้นเคยทางสังคมและวัฒนธรรม เพื่อประโยชน์ในการขับเคลื่อนการเติบโตของภาคการส่งออกและเศรษฐกิจของประเทศไทยและภูมิภาคโดยรวม" นายพิศิษฐ์กล่าว