กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--Med Agency
ทีมข่าวเว็บไซต์ เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com รายงานว่า อุปนายกฝ่ายบริหารเป็นผู้แทนองค์กรสื่อไทยเยือนจีนเข้าร่วมชมพิธีเปิดการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รัฐบาลจีนได้เชิญ "ผู้แทนระดับผู้บริหารองค์กรสื่อนานาชาติ" 36 คน จาก 30 ประเทศ เข้าประชุมหารือความร่วมมือระหว่างสื่อมวลชนสองประเทศ ต่อนโยบาย "Belt and Road" ( B & R ) ของจีน
รวมทั้งเข้าร่วมในพิธีเปิดการประชุมใหญ่ตัวแทนพรรคคอมมูนิสต์จีนครั้งที่ 19 ณ กรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 15 – 21 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยนายมงคล บางประภา อุปนายกฝ่ายบริหารและเลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เป็นผู้แทนที่ได้มอบหมายไปร่วมเยือนในครั้งนี้
ในการนี้ตัวแทนผู้บริหารองค์กรสื่อหลายประเทศ ได้แลกเปลี่ยนความคิด รวมทั้ง บอกเล่าประวัติความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรสื่อที่ตนสังกัด กับองค์กรสื่อของประเทศสาธารณะรัฐประชาชนจีน
ซึ่งผู้แทนองค์กรสื่อหลายประเทศ ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรปตะวันออกแอฟริกา ได้แสดงการสนับสนุนนโยบาย Belt and Road ของจีน และยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างสื่อมวลชนทั้งสองประเทศในการทำหน้าที่รายงานแลกเปลี่ยนความรู้ และแลกเปลี่ยนการเย้าเยือนระหว่างสื่อมวลชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในนโยบายดังกล่าวและสื่อสารต่อไปยังประชาชนของแต่ละประเทศ
นายมงคล บางประภา อุปนายกฝ่ายบริหาร และ เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ ในฐานผู้แทนองค์กรสื่อจากประเทศไทย กล่าวแสดงความเห็นต่อที่ประชุมในตอนหนึ่งว่า
"สื่อไทยตระหนักและเห็นพ้องในความสำคัญของนโยบาย Belt and Road ของประเทศจีนว่ามีคุณค่าเชิงเศรษฐกิจร่วมกันของทั้งภูมิภาคและอนุภูมิภาคแต่ในฐานะสื่อมวลชนในประเทศที่มีอิสระในการนำเสนอข่าวสารบนพื้นฐานข้อเท็จจริงและความรับผิดชอบ ใคร่ขอให้ทางการจีนจัดให้มีแหล่งข่าว หรือ โฆษกอย่างเป็นทางการ สำหรับการให้ข่าว B&R กับสื่อมวลชนไทยโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการให้ข้อมูลได้รองด้านอย่างทันท่วงที
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อแก้ปัญหาการสื่อข่าวสารข้อมูลที่อาจผิดพลาด หรือ โดยความจงใจให้เกิดความเข้าใจผิดบนพื้นที่ของสื่อโซเชี่ยลมีเดียผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
"สื่อมวลชนไทยมีความรู้สึกเช่นเดียวกับประชาชนชาวไทย เราไม่มีข้อกังขาต่อศักยภาพด้านเทคโนโลยีของประเทศจีน แต่ความกังวลยังคงมีอยู่
เนื่องจากแม้หลักการของ B&R จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ด้วยศักยภาพที่เหนือกว่าแทบทุกด้านของประเทศมหาอำนาจอย่างจีน สภาพการแข่งขันสำหรับประเทศเล็กทั้งหลายอาจจะเสียเปรียบในภายภาคหน้า
หากประเทศใหญ่มองข้ามขีดจำกัดของประเทศที่เล็กกว่า ละเลยการประคับประคองช่วยเหลือให้เกิดความเจริญอย่างทัดเทียมกันบนโครงการ B&R นี้ ประเทศเล็ก ๆ ก็จะถูกทิ้งห่างจากกระแสการพัฒนาครั้งนี้" นายมงคล กล่าว
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล การทำความเข้าใจ ตลอดจนการศึกษาดูงานอันเกี่ยวเนื่องกับ B&R ระหว่างสื่อมวลชนของทั้งสองประเทศเป็นระยะ ๆ บนหลักแห่งความเสมอภาคต่อกัน
ทั้งนี้ นายจางหยางหนง (Zhang Yannong) ประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศจีน (All-Chana Journalists Association) กล่าวตอบผู้แทนสื่อ 30 ประเทศว่า
ประเทศจีนได้วางหลักนโยบาย B&R บนพื้นฐานของผลประโยชน์ ความช่วยเหลือและความร่วมมืออย่างเท่าเทียมกัน แม้ว่าประเทศต่าง ๆ ที่จะมีส่วนร่วมใน B&R ของจีนจะมีพื้นฐาน ภาษา วัฒนธรรมที่แตกต่างกันแต่เราก็ยังสามารถอาศัยเวทีของสื่อสารมวลชนในการทั้งยังรับฟัง รับรู้และร่วมกันพัฒนาด้วยกัน จึงไม่ใช่หนึ่งประเทศร้องเพลงและให้หลายประเทศร้องประสาน แต่เป็นการร่วมบรรเลงไปด้วยกันข้าพเจ้าจึงขอสนับสนุน และยินดีต้อนรับสื่อสารมวลชนจากนานาชาติมาให้ความร่วมมือ ร่วมรับรู้ และเรียนรู้ด้วยกัน
"ขอสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สำหรับคณะสื่อมวลชนระหว่างประเทศสำหรับศึกษาดูงาน ตลอดจนรายงานข่าวโครงการในนโยบาย B&R ที่จะจัดขึ้นปีละครั้ง เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสื่อมวลชน" นายจาง กล่าว
สำหรับ นายสีจิ้นผิง ( Xi Jinping ) ประธานาธิบดีและผู้นำพรรคคอมมูนิตย์จีน ได้กล่าวตอนหนึ่งในพิธีเปิดการประชุมใหญ่พรรคคอมมูนิตย์จีนครั้งที่ 19 ที่หอประชุมใหญ่ศาลามหาประชาชนจีน กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2560 พูดถึงนโยบาย B&R ว่า
"เป็นนโยบายสำคัญเพื่อการเปิดกว้างทางการค้าสู่โลก และนำโลกสู่จีน โดยจะสนับสนุนการค้าเสรีเพื่อพัฒนาการค้า การลงทุน ตลอดจนการพัฒนาทางสังคม
ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญที่จีนจะขยายเส้นทางการค้าสายสำคัญสู่หลากหลายภูมิภาคจากเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ไปจรดภูมิภาคยุโรปและแอฟริกา ให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่าหรือมากกว่าเส้นทางสายไหมในยุคโบราณ"