กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--เอบีเอ็ม
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงยอดจำหน่ายสะสมตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอันดับหนึ่งต่อเนื่องตลอด 3 ไตรมาส ปี 2560 ด้วยยอดจำหน่ายสะสมรวมทั้งสิ้น 93,271 คัน เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.4% ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 33% อีกทั้งมียอดจำหน่ายรวมสูงสุดใน 3 เซกเมนต์หลัก ทั้งซับคอมแพคท์ คอมแพคท์ และเอสยูวี ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่ไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานและทุกไลฟ์สไตล์
จากกระแสการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าที่มีต่อรถยนต์ฮอนด้าตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงเดือนกันยายนนี้ ทำให้ฮอนด้ามียอดจำหน่ายสะสมรวมทั้งสิ้น 93,271 คัน เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.4% ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 33% อีกทั้งยังสามารถครองอันดับหนึ่งยอดจำหน่ายรวมในช่วง 9 เดือนแรก ใน 3 เซกเมนต์หลัก ได้แก่ เซกเมนต์ซับคอมแพคท์ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 48.4% โดยมียอดจำหน่ายรวม 41,861 คัน (ซิตี้ 25,359 คัน และแจ๊ซ 16,502 คัน) เซกเมนต์คอมแพคท์ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 51.7% โดยมียอดจำหน่ายรวม 20,576 คัน (ซีวิค 18,458 คัน และซีวิค แฮทช์แบ็ก 2,118 คัน) และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์เอสยูวี ฮอนด้ามีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 62.8% โดยมียอดจำหน่ายรวม 23,989 คัน (เอชอาร์-วี 11,637 คัน, ซีอาร์-วี 7,718 คัน และบีอาร์-วี 4,634 คัน)
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในช่วงครึ่งปีแรก ฮอนด้าได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 5 รุ่น ได้แก่ ซิตี้ ซีวิค แฮทช์แบ็ก ซีอาร์-วี โมบิลิโอ และแจ๊ซ ซึ่งล้วนได้รับกระแสการตอบรับที่ดีเยี่ยม ส่งผลให้ฮอนด้ายังคงรักษาอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้อย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 3 และยังคงเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับผลิตภัณฑ์ของฮอนด้า ด้วยการให้ความสำคัญด้านการวิจัยและพัฒนา ซึ่งล่าสุดได้ทำการเปิดสนามทดสอบ ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค ปราจีนบุรี สนามทดสอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์แบบครบวงจร นับเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ฮอนด้าสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่มีคุณภาพและพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น"
*ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในตลาดระหว่างเดือนมกราคม – กันยายน 2560 มีจำนวนรวม 282,833 คัน เติบโต 17.4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 (240,816 คัน) ในขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ในตลาดรวมมีจำนวน 620,715 คัน เติบโต 11.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 (556,525 คัน)