กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
รับแผนรุกผลิตคอนเทนต์จากช่อง CNBC ขยายฐานผู้ชมในไทย
บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 140 ล้านหุ้น หลัง ก.ล.ต. นับ 1 แบบไฟล์ลิ่ง คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในปีนี้ ด้านผู้บริหารชูจุดเด่นความหลากหลายของคอนเทนต์ทั้งไทยและเทศที่อยู่ในกระแสความนิยม เพื่อจำหน่ายลิขสิทธิ์ผ่านช่องทางการเผยแพร่ในทุกแพลตฟอร์มทั้ง ทีวีระบบดิจิตอล ทีวีระบบเคเบิลและดาวเทียม โฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ระบบช่องสัญญาณทางอินเตอร์เน็ต พร้อมคว้าลิขสิทธิ์ผลิตและจำหน่ายรายการจาก CNBC เสริมความแข็งแกร่งช่วยต่อยอดสู่การขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในไทย
คุณชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล (Global Content Provider)ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟล์ลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 140 ล้านหุ้น ซึ่งล่าสุด ก.ล.ต.ได้นับ 1 แบบไฟล์ลิ่งเป็นที่เรียบร้อย
ปัจจุบัน บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN มีทุนจดทะเบียนจำนวน 270 ล้านบาท แบ่งเป็น 540 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น โดยมีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วจำนวน 200 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนเกิน 140 ล้านหุ้นหรือคิดเป็นร้อยละ 25.93 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวข้องกับธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและใช้สำหรับการดำเนินการทั่วไป และเพื่อลงทุนหรือขยายธุรกิจของบริษัทย่อย ส่วนที่เหลือจะชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงินและ/หรือชำระคืนหนี้หุ้นกู้
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN กล่าวว่า บริษัทฯ มี 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่ซื้อและนำเข้าจากทั้งในและต่างประเทศ และที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ โดยลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่ให้บริการเป็นลิขสิทธิ์คอนเทนต์สำเร็จรูป แล้วนำมาดำเนินการแปล พากย์ ตัดต่อ (Localization) เพื่อจำหน่ายให้ผู้ประกอบการธุรกิจสื่อทั้งสถานีโทรทัศน์ บริษัทผู้ประกอบธุรกิจโฮมเอนเตอร์เทนเม้นท์และบริษัทผู้ประกอบ VDO (Video On Demand) ในลักษณะผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ (Business to Business- B2B) 2.ธุรกิจให้บริการเวลาเพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าทางสถานีโทรทัศน์ ดำเนินการภายใต้บริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท เจเคเอ็น แชนแนล จำกัด ผ่านสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม (JKN Drama) และเวลาจากสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลที่ซื้อมาจากสถานี เพื่อให้บริการในรูปแบบหนังโฆษณาและสปอต โฆษณารูปแบบสกู๊ปและโฆษณารูปแบบรายการแนะนำสินค้า และ3.ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เช่น DVD Blu-ray Box Set ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ผลิตและจำหน่าย รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น เสื้อโครงการต่างๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีจุดแข็งด้านลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่จำหน่ายหลายรายการเป็นสิทธิ์แบบ Output Deal จากเจ้าของสิทธิ์ ทำให้ในระหว่างได้รับสิทธิ์นั้น JKN มีสิทธิ์ในการเลือกคอนเทนต์จากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อนเป็นบริษัทแรก และมีโอกาสขยายธุรกิจไปในประเทศใกล้เคียงจากสิทธิ์บางส่วน ที่ครอบคลุมการจำหน่ายคอนเทนต์ในประเทศใกล้เคียง เช่น สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นต้น นอกจากนี้ คอนเทนต์ที่ JKN ถือลิขสิทธิ์ยังได้รับประโยชน์จากการวิวัฒนาการของช่องทางการสื่อใหม่ๆ เช่น สื่อออนไลน์ อีกทั้งยังไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีจากวีดีโอเทปเป็นแผ่นซีดีอีกด้วย ในที่สุดบริษัทฯ มีความหลากหลายในประเภทของคอนเทนต์เปรียบเสมือนศูนย์รวมเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของสื่อแต่ละช่องทาง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN กล่าวว่า ในปี 2559 บริษัทฯ ยังได้รับสิทธิจาก National Broadcasting Company Universal (NBC) เพื่อซื้อและผลิตคอนเทนต์ภายใต้แบรนด์Consumer News and Business Channel (CNBC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายการเกี่ยวกับข่าวธุรกิจและการลงทุนที่มีชื่อเสียงของโลก โดยสัญญามีระยะเวลา 10 ปี (2560-2570) ทั้งนี้ สิทธิ์ที่ได้รับแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ในส่วนแรก ตั้งแต่ปี 2560-2570 บริษัทฯ ได้รับสิทธิในการนำเสนอคอนเทนต์รายการภายใต้แบรนด์ CNBC ที่ผลิตและออกอากาศในต่างประเทศมาทำการตัดต่อ แปลและพากษ์เสียงภาษาไทยสำหรับจำหน่ายต่อผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์เพื่อออกอากาศในประเทศไทย โดยได้เริ่มจำหน่ายคอนเทนต์รายการภายใต้แบรนด์CNBC ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจสถานีโทรทัศน์แบบดิจิตอล เช่น ช่อง 3 และ Bright TV ตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
ส่วนที่ 2 ในช่วงปี 2562-2570 บริษัทฯ ได้รับสิทธิในการผลิตรายการที่มีโครงสร้างรูปแบบรายการตามรายการของแบรนด์ CNBC โดยใช้พิธีกรและผู้ดำเนินรายการคนไทยในการผลิตรายการเกี่ยวกับข่าวธุรกิจและการลงทุนเพื่อออกอากาศในช่อง JKN CNBC ซึ่งดำเนินการโดบริษัทฯย่อย ได้แก่ บริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด โดยในระหว่างการเตรียมดำเนินการดังกล่าว ทาง CNBC ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่มาฝึกอบรมให้แก่ทีมงานเพื่อผลิตรายการให้ได้คุณภาพเท่าเทียมกับมาตรฐานสากลของ CNBC และบริษัทฯ จะลงทุนสร้างห้องMaster Control Room (MCR) ซึ่งเป็นห้องสำหรับการออกอากาศและลงทุนในอุปกรณ์ออกอากาศและผลิตรายการอีกด้วย
"เรามีวิสัยทัศน์เป็นผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล และนำเข้าคอนเทนต์ชั้นนำจากต่างประเทศเพื่อเผยแพร่ในไทยและกลุ่มประเทศ CLMV รวมถึงเป็นผู้ผลิตและถือครองลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพเพื่อจำหน่ายและเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการการเติบโตที่ยั่งยืนของบริษัทฯ ต่อไป" คุณจักรพงษ์ กล่าว