กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เน้นย้ำกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยจากภาวะฝนตกหนัก
และคลื่นลมแรงในพื้นที่ภาคใต้ มุ่งเน้นการให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนโดยเฉพาะแนวทางการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐ วิธีปฏิบัติตนอย่างปลอดภัย และช่องทางการติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการและเครือข่าย พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และลมกระโชกแรงกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้เน้นย้ำกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ ทั้งจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในระดับพื้นที่ มุ่งเน้นการให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชน โดยเฉพาะแนวทางการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐวิธีปฏิบัติตนอย่างปลอดภัย ช่องทางการติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการและเครือข่าย รวมถึงให้ประชาชนติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศและการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที พร้อมเชื่อมโยงระบบสื่อสารหลัก – รอง ให้ใช้สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กอปภ.ก.ได้ร่วมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สสนก. จัดเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและหน่วยเผชิญเหตุปฏิบัติการติดตาม และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจัดสรรทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจำ ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี อาทิ เรือท้องแบน รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถผลิตน้ำดื่ม เครื่องสูบน้ำ รถยกสูง ให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่วันที่31 ต.ค.60 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังได้จัดส่งถุงยังชีพจำนวน 10,000 ชุด สำรองไว้ ณ ศูนย์ ปภ. เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา เพื่อสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสถานการณ์น้ำ ปริมาณน้ำ สถานการณ์ฝนพื้นที่ในอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐอย่างเคร่งครัด
ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป