นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น โดยดัชนีฯ เดือนพฤศจิกายน 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในภาวะร้อนแรงอย่างมากเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 6, 2017 16:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ดร. สันติ กีระนันทน์ ผู้แทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนพฤศจิกายน 2560 "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในภาวะร้อนแรงอย่างมากเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน จากความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ นโยบายทางการเงินของสหรัฐ และอัตราแลกเปลี่ยน เป็นปัจจัยที่นักลงทุนเฝ้าติดตาม สำหรับตลาดหุ้นไทย ดัชนีฯยังมีการปรับตัวในทิศทางที่เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม" โดยมีรายละเอียด ดังนี้ - ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า (มกราคม 2561) อยู่ที่ 165.77 อยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรงอย่างมาก" (Very Bullish) (ช่วงค่าดัชนีระหว่าง 120 - 160) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.93% จากเดือนที่ผ่านมาที่ 162.63 - ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มบัญชีนักลงทุนต่างประเทศ กลุ่มสถาบันภายในประเทศ และกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับร้อนแรงอย่างมาก ขณะที่กลุ่มนักลงทุนรายบุคคลปรับเพิ่มขึ้น โดยอยู่ในระดับร้อนแรง - หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM) ส่วนหมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA) เป็นหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด - ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ "ภาวะการลงทุนในเดือนตุลาคม ตลาดหุ้นไทยยังคงมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นโดยมาอยู่ที่ระดับ1700 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นจากการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ภาวะการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นของสหรัฐยังมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าของแผนปฏิรูปภาษี และผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐ ภาวะการลงทุนในยุโรป ได้รับผลดีจากการขยายระยะเวลาการทำ QE ไปจนถึงเดือนกันยายน 2561 และยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป และภาวะเศรษฐกิจในเอเชีย ได้แก่ญี่ปุ่นและจีน ที่คาดว่าจากการที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชนะการเลือกตั้งอีกสมัยทำให้จะยังคงสามารถคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป รวมถึงจากการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน ทำให้คาดว่าจะมีความต่อเนื่องทางนโยบายทางเศรษฐกิจต่อไปจากประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างประเทศในคาบสมุทรเกาหลียังเป็นปัจจัยที่นักลงทุนเฝ้าติดตาม" ดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือนพฤศจิกายน 2560 "ผลจากดัชนีคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวที่ระดับ 1.50% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี และ 10 ปี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากอุปสงค์-อุปทานในตลาดตราสารหนี้ การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย และการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ" นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือนพฤศจิกายน 2560 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ - ดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. รอบเดือนพฤศจิกายนนี้ อยู่ที่ระดับ 48 สะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดว่า กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ในการประชุมครั้งหน้า โดยให้น้ำหนักในปัจจัยหลัก 3ประการ ได้แก่ 1) อัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ 2) เศรษฐกิจภายในประเทศ และ 3) อัตราดอกเบี้ยนโยบายในตลาดการเงินโลก - ดัชนีคาดการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี และ 10 ปี ในช่วงประชุม กนง. รอบเดือนธันวาคม (ประมาณ 6 สัปดาห์ข้างหน้า) อยู่ที่ระดับ 86 และ 89 ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากครั้งที่แล้ว (ระดับ 69 และ 68 ตามลำดับ) โดยดัชนีอยู่ในระดับที่สะท้อนถึงทิศทางที่เพิ่มขึ้น โดยผู้ตอบแบบสำรวจให้ความสำคัญใน 4 ปัจจัยหลัก คือ 1)อุปสงค์ในตลาดตราสารหนี้ที่มีแนวโน้มลดลง 2)การคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ 3)อัตราเงินเฟ้อของไทยที่เริ่มปรับสูงขึ้น 4) แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ