กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--มหาวิทยาลัยขอนแก่น
รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า การพัฒนาคุณภาพของบัณฑิตให้มีพื้นฐานวิชาการที่เข้มแข็ง และเพิ่มทักษะทางวิชาชีพที่จำเป็นอื่น ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงาน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน และในความร่วมมือครั้งนี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้รับการสนับสนุนการพัฒนาห้องปฏิบัติการด้านการควบคุมกระบวนการทำงานต่างๆ ของเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม หรือที่เรียกว่า โปรแกรมเมเบิลลอจิกคอลโทรลเลอร์ (Programmable logic Control : PLC) ซึ่งห้องปฏิบัติการดังกล่าวนี้ จะเป็นประโยชน์ด้านการเรียนการสอนของนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยเฉพาะวิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมไฟฟ้า และวิศวกรรมอุตสาหการ ถือเป็นห้องปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีที่นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ จะได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการควบคุม การติดตั้ง กลไกต่างๆ ในการใช้หุ่นยนต์ในการทำงานแทนคนในแวดวงอุตสาหกรรมโรงงาน ทั้งนี้ เพื่อรองรับไทยแลนด์ 4.0 ที่จะมีการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาทำงานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นถือเป็นความได้เปรียบของนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่จะได้สัมผัสและเรียนรู้เทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์เพิ่มมากยิ่งขึ้น และเมื่อนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาออกไปจะสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงในอนาคต โดยห้องปฏิบัติการฯ นี้ บริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย จำกัด ได้เข้าสนับสนุนและมอบอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอน ที่ได้ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คิดเป็นมูลค่าห้องปฏิบัติการประมาณ 1,000,000 บาท ซึ่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอขอบคุณในความร่วมมือและการสนับสนุนห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยในยุค 4.0 ด้านต่างๆ จากจากบริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย จำกัด
สำหรับการลงนามครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนในด้านอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม การทำวิจัยในด้านวิศวกรรมเครื่องกล การใช้เครื่องจักรอัตโนมัติ และด้านวิศวกรรมไฟฟ้า รวมถึงระบบไฟ และนอกจากนี้ยังสนับสนุนด้านการเป็นสถานที่ฝึกงานและสหกิจศึกษาสำหรับนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อีกทั้งความร่วมมือในกิจกรรมอื่นๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยและบริษัทฯ ต่อไป
Mr. Marc Pelletier Country President Thailand and Laos Schneider (Thailand) เผยว่า การที่ บริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพราะเชื่อมั่นว่า การพัฒนาทรัพยากรบุคคลเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งทางบริษัทฯ มีนโยบายด้านการพัฒนาแบบยั่งยืนเน้นการพัฒนาบุคลากรและสังคมผ่านการศึกษา อย่างที่ทราบกันดีว่า การศึกษาเป็นรากฐานของชาติ ดังนั้นบริษัทฯ จึงมีความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือในหน่วยงานการศึกษาทั้งในระดับอาชีวะและระดับมหาวิทยาลัย สำหรับในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญของบริษัท และมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม บริษัทฯ จึงมีความประสงค์ที่จะร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีของนักศึกษา ซึ่งจะเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศที่สำคัญที่สุด ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ร่วมสร้างห้องปฏิบัติการ ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ซึ่งเป็นก้าวย่างที่สำคัญ ในการพัฒนาคนรุ่นใหม่ที่จะช่วยให้มีศักยภาพในด้านอุตสาหกรรมตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 นักศึกษาจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของบริษัท ซึ่งเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ จะช่วยให้นักศึกษาได้เรียนรู้แนวทางในการผลิตของอุตสาหกรรมแบบยั่งยืน "ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เข้าร่วมโครงการของบริษัทฯ มาหลายโครงการ เช่นในปี พ.ศ. 2558 บริษัทฯ ได้จัดโครงการ Go Green in the city 2015 เพื่อประกวดผู้นำนักศึกษาด้านพลังงานสีเขียวระดับโลก ซึ่งผู้เข้าร่วมการประกวดจาก มข. ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากการประกวดครั้งนั้น และในปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดการประกวด "Plant of the Future" ซึ่งเป็นการประกวดเกี่ยวกับด้านอุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติ และได้มีทีมจาก มข. สมัครเข้าประกวด จำนวน 5 ทีม ซึ่งได้มีการฝึกอบรมที่บริษัทตั้งแต่วันที่ 16-20 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา และบริษัทฯ หวังว่าทีมจาก มข. จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่จะมีการประกวดในเดือนมกราคม ปี 2561 นี้ อย่างไรก็ตามก้าวต่อไปในอนาคต บริษัทฯ จะได้สนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมด้านการเรียน เพื่อให้นักศึกษาได้รับประโยชน์มากที่สุด ภายใต้ความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้" Mr. Marc กล่าว