กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย)
ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจอาหารในประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการพิซซ่า ประกาศปิดร้านพิซซ่า ฮัท ทั้ง 116 สาขาทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าเปิดตัว แบรนด์ใหม่ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี (The Pizza Company) ตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็นเจ้าตลาดพิซซ่าทั่วไทย กลางเดือนมีนาคมนี้
มร. วิลเลี่ยม ไฮเนคกี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป เปิดเผยว่า “หลังจากที่ได้คืนลิขสิทธิ์ร้านพิซซ่าแบรนด์เดิมให้กับเจ้าของเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ปจะเปิดร้านพิซซ่าภายใต้ชื่อใหม่คือ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ซึ่งจะเป็นแหล่งรวมความอร่อยที่เหนือชั้นกว่าของพิซซ่าสูตรพิเศษของเราและพรั่งพร้อมไปด้วยอาหารอีกหลากหลายชนิดที่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อมถูกลิ้นคนไทย โดยเราจะใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมานานกว่า 25 ปีช่วยสร้างสรรค์เมนูอาหารที่หลากหลายและเครื่องปรุงรสชั้นเลิศ เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ของเรา”
“องค์ประกอบที่สำคัญอีกประการหนึ่งซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จของเดอะ พิซซ่า คอมปะนีในอนาคต ก็คือการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบที่ผลิตได้เองภายในประเทศ โดยบริษัท ไมเนอร์ ชีส แมนูแฟคเจอร์ริ่งจะเป็นผู้ผลิตเนยแข็งหรือชีสซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักเพื่อป้อนให้แก่ร้านพิซซ่าของเรา โดยจะมีการสั่งซื้อน้ำนมดิบปริมาณกว่า 10 ล้านลิตรจากเกษตรกรกว่าร้อยครัวเรือนในอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เพื่อนำมาผลิตเนยแข็งชั้นดีคือมอสซาเรลล่าชีสและเชดเดอร์ชีส ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญในการปรุงพิซซ่าและพาสต้าสูตรใหม่ของเรา” มร. ไฮเนคกี้ กล่าว
ในวันที่ 17 มีนาคมศกนี้ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ปจะเปิดร้านพิซซ่าภายใต้แบรนด์ใหม่ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี พร้อมกัน 116 สาขา โดยในช่วงหกสัปดาห์แรกของการปรับโฉมร้านใหม่นี้ บริษัทฯ จะจัดให้มีการฝึกอบรมพนักงานกว่า 3,000 คน เพื่อเตรียมความพร้อมในการนำเสนอเมนูอาหารรสเลิศในรูปแบบใหม่ออกสู่ตลาด
มร. ไฮเนคกี้ กล่าวต่อไปว่า “การเปิดตัวเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ถือเป็นพัฒนาการก้าวสำคัญของไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ที่เปิดโอกาสให้เราสร้างและเป็นเจ้าของแบรนด์ของเราเอง ตลอดจนสามารถควบคุมการพัฒนาธุรกิจพิซซ่าของเราได้อย่างเต็มที่ และประหยัดค่าลิขสิทธิ์สำหรับในอีกห้าปีข้างหน้าได้กว่า 400 ล้านบาท และผมเชื่อมั่นว่าการปรากฏตัวของสองบริษัทพิซซ่ายักษ์ใหญ่จะทำให้ตลาดพิซซ่าโดยรวมกลับมาคึกคักและมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นฟื้นตัวจากสภาพตลาดที่ค่อนข้างซบเซามานานในช่วงสามปีที่ผ่านมา”
“เราตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในตลาดพิซซ่าของไทยทั้งในส่วนของการรับประทานในร้าน การซื้อกลับบ้านและการบริการจัดส่งนอกสถานที่ ยิ่งไปกว่านั้นเรายังมั่นใจด้วยว่ารสชาติอาหารสไตล์อิตาเลียน ทำเลที่ตั้งของร้าน คุณภาพของการบริการ ตลอดจนการรู้จักลูกค้าของเราอย่างแท้จริงจะทำให้การเปิดตัว เดอะ พิซซ่า คอมปะนีในเดือนมีนาคมนี้ประสบความสำเร็จและจะนำเราไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแน่นอน” มร. ไฮเนคกี้ กล่าวทิ้งท้าย
เดอะ พิซซ่า คอมปะนี จะใช้หมายเลข “1112” เป็นหมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการจัดส่งอาหารนอกสถานที่เช่นเดียวกับร้านชิคเก้น ทรีทและสเวนเซ่นส์ พร้อมกันนี้ได้ยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์ 712-7000 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับบริการจัดส่งอาหาร และจะไม่มีบริษัทใดหรือผู้ใดนำหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวไปใช้อีกต่อไป
ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป เป็นผู้นำระดับแนวหน้าของวงการธุรกิจฟาสต์ฟู้ดในประเทศไทย ประกอบด้วยเดอะ พิซซ่า คอมปะนี (The Pizza Company) เบอร์เกอร์ คิง (Burger King) สเวนเซ่นส์ (Swensen ’s) แดรี่ควีน (Dairy Queen) ซิซซ์เลอร์ (Sizzler) และชิคเก้น ทรีท (Chicken Treat) โดยมีร้านแฟรนไชส์อยู่ในสังกัดกว่า 350 สาขาทั่วประเทศ ในปี 2543 บริษัทฯ ได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีกกว่า 70 แห่ง ซึ่งรวมถึงร้านเบอร์เกอร์ คิงและร้านชิคเก้น ทรีท และนอกเหนือจากกิจการร้านอาหารแล้ว บริษัทฯ ยังมีโรงงานผลิตเนยแข็งและไอศกรีมเป็นของตนเอง และเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการจัดส่งอาหารนอกสถานที่อีกด้วย
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณอารยา ศรีศิลป์โสภณ หรือคุณณัฐ นาคะสุวรรณ โทร. 658-6111-20
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด
ดนัย จันทร์เจ้าฉาย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 658-6111-20--จบ--
-อน-