กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย)
บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวในเขตกรุงเทพฯว่า ปัจจุบันความต้องการในการซื้อบ้านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและผู้ซื้อก็มีความรอบคอบมากขึ้นในการเลือกโครงการที่มีทำเลดี, แบบบ้านและขนาดในราคาที่เหมาะสมตรงกับความต้องการของตนมากขึ้น ในขณะที่ผู้ประกอบการโครงการที่อยู่อาศัยเองต่างก็กำลังพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด
ผู้ซื้อบ้านในปัจจุบันมีความต้องการที่มีคุณภาพดีและต้องสร้างเสร็จก่อนขายมากกว่าการซื้อบ้านที่มีราคาถูก แต่ไม่มีคุณภาพเพราะผู้ประกอบการใช้วัสดุก่อสร้างไม่ดี สร้างปัญหาให้ผู้อยู่อาศัยในภาคหลังเสมอ
คุณณษภร ประคุณหังสิต รองผู้อำนวยการฝ่ายตัวแทนขายที่อยู่อาศัยของบริษัท ซีบี ริชาร์ด กล่าวว่าผู้ซื้อที่ตัดสินใจซื้อบ้านจะมีเหตุผลในการเลือกซื้อดังนี้
1) ทำเลที่ตั้ง - ผู้ซื้อส่วนใหญ่ต้องการบ้านในทำเลที่สะดวกในการเดินทางเข้ามายังในกลางเมืองได้ง่าย เช่น บริเวณทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ และถนนศรีนครินทร์ โดยเฉพาะทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ บริเวณรังสิต ลาดพร้าว และรามอินทรา กำลังเป็นทำเลยอดนิยมของผู้ซื้อ เพราะมีทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ และทางด่วนขั้นที่สอง ทำให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็ว
2) ขนาดของที่ดินและบ้าน - กลุ่มผู้ซื้อบ้านเป็นครั้งแรกที่มีรายได้ระดับปานกลาง ปกติจะเลือกซื้อบ้านเดี่ยวเนื้อที่ประมาณ 50-70 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 150-250 ตารางเมตร หรืออาจเลือกซื้อทาว์นเฮ้าส์ขนาด 25-30 ตารางวา ส่วนกลุ่มผู้ซื้อที่ต้องการบ้างขนาดใหญ่กว่าเดิม จะซื้อบ้านในเนื้อที่ประมาณ 80-100 ตารางวา
3) ความสามารถทางการเงิน - ราคาบ้านในตลาดส่วนใหญ่ถูกกำหนดตามความสามารถทางการเงินของกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง ความสามารถทางการเงินขึ้นอยู่กับรายได้ของแต่ละบุคคล ผู้ซื้อจะตัดสินในซื้อเมื่อมีรายได้มากขึ้น หรือบางครั้งอาจตัดสินใจซื้อเพราะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำลงทำให้มีความสามารถที่จะซื้อได้มากขึ้น กลุ่มผู้ซื้อบ้านเป็นครั้งแรกจะมีงบซื้อบ้านประมาณ 3-4 ล้านบาทสำหรับโครงการที่อยู่อาศัยใกล้ใจกลางเมือง และประมาณ 2-2.5 ล้านบาท ถ้าเป็นบ้านในโครงการบริเวณถนนวงแหวนรอบนอกส่วนครอบครัวที่ต้องการขยับขยายเมื่อมีสมาชิกเพิ่มขึ้นจะมองหาบ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีคุณภาพดีกว่าเดิมนั้นสามารถจ่ายได้มากกว่า 5 ล้านบาทสำหรับบ้านบนเนื้อที่ 80-100 ตารางวา
4) คุณภาพ - ผู้ซื้อจะพิจารณาคุณภาพของบ้านจากความพิถีพิถันในการก่อสร้าง ชนิดและวัสดุที่ใช้ การเลือกใช้วัสดุนั้นไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุที่มีราคาแพง แต่ควรใช้วัสดุที่มีสีสรรและการออกแบบที่เข้ากันได้ดีกับแบบบ้านแต่ละหลัง
5) สิ่งอำนวยความสะดวก - ผู้ซื้อจะพอใจในโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการ เช่น สระว่ายน้ำ คลับเฮ้าส์ ศูนย์ออกกำลังกาย มีการจัดการพื้นที่ส่วนกลางและการรักษาความปลอดภัย
โดยสรุปแล้ว ผู้ซื้อบ้านในปัจจุบันจะเลือกซื้อบ้านราคาที่เหมาะสม แบบบ้านถูกกับรสนิยม โดยตัดสินที่ความชอบพอส่วนตัวและเหมาะสมสำหรับชีวิตของแต่ละบุคคลเป็นหลัก
มิสเอมี่ โรดิล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาดของบริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส กล่าวว่า ยอดขายบ้านเดี่ยวและทาว์เฮ้าส์สูงขึ้นในปีที่ผ่านมาและจะสูงขี้นต่อไปอีก จากข้อมูลของธนาคารสงเคราะห์ชี้ให้เห็นว่ามียอดจดทะเบียนที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมประมาณ 27,500 หน่วยในครึ่งแรกของปีนี้สูงขึ้น 42% เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และ 62% ของจำนวนนี้หรือประมาณ 17,000 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวซึ่งสูงกว่าระยะเดียวกันของปีก่อนถึง 29% ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรจึงมีมั่นใจที่จะเสนอสินค้าเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของอุปทานที่เข้ามาใหม่นี้ยังเทียบไม่ได้เลยกับช่วงสูงสุดของตลาดในปี 2538-2539 มิสโรดิส เชื่อว่า ความต้องการบ้านเดี่ยวจะเพิ่มขึ้นต่อไปอีก เนื่องจากขณะนี้มีความต้องการสะสมอยู่ในตลาดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลประชากรที่อยู่ในวัยสร้างครอบครัวอายุประมาณ 25-35 ปี มีถึง 1.4 ล้านคน คู่แต่งงานใหม่มีความต้องการอย่างชัดเจนที่จะมีบ้านเป็นของตนเอง และในขณะนี้การกู้เงินซื้อบ้านสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำสุดเท่าที่เคยมีและยังคงอยู่ในระดับต่ำนี้อีกต่อไป ธนาคารและสถาบันการเงินต่างก็แข่งขันกันเพื่อแย่งชิงลูกค้าที่ต้องการกู้ยืมเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยกันอย่างเต็มที่ สำหรับมาตราการคุ้มครองผู้บริโภค เช่น การประกันเงินดาวน์ โดยการซื้อบ้านโดยผ่านระบบบัญชี เอสโครว์ ซึ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ หรือการสร้างบ้านให้แล้วเสร็จก่อนเสนอขายก็เป็นที่ถูกใจสำหรับผู้ซื้อที่ไม่ต้องการความเสี่ยงเลย
บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส เชื่อว่า ผู้บริโภคมีความสุขุมรอบคอบในการซื้อบ้านมากขึ้น ผู้ประกอบการที่ต้องการประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยต่างๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น การเลือกทำเลที่ตั้ง ขนาดบ้านและที่ดินที่เหมาะสม การกำหนดคุณภาพและราคา มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในโครงการ ถ้าปัจจัยส่วนใดส่วนหนี่งขาดหาดไปอาจเป็นสาเหตุให้โครงการไม่สามารถประสบความสำเร็จได้
For further information:
Ms.Nassapon Prakunhungsit
Associate Director-Residential Sales
Tel:231-0123 Ext.412--จบ--
-นห-