กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2560 มีรายได้ 2,039 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.8% จากการขยายตลาดในประเทศเพิ่มมากขึ้น กำไร 49 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร "" พนม ควรสถาพร "" ระบุไตรมาส 4/2560 เข้าสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจ จากการใช้ถ่านหินเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าในช่วงฤดูหนาว บวกกับราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นยืนเหนือระดับ 90 ดอลลาร์ต่อตัน และการทำการตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างต่อเนื่อง หนุนยอดขายทั้งปีทะลุ 25-30% พร้อมลุยธุรกิจเรือลำเลียง ปั้นรายได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเป็น 5% ของรายได้รวม เสริมศักยภาพธุรกิจเติบโตมั่นคงในระยะยาว
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2560 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 ว่า บริษัทฯมีรายได้ 2,039.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,134.19 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 49.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 17.46 ล้านบาท
ขณะที่ ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2560 ของบริษัทฯมีรายได้รวม 4,659.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯมีรายได้รวม อยู่ที่ 3,134.30 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 93.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 60.71 ล้านบาทเนื่องจากการทำการตลาดแบบเชิงรุกในประเทศ และการเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงปลายปีที่ผ่านมา รวมทั้งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาถ่านหินที่สามารถยืนเหนือระดับ 90 ดอลลาร์ต่อตัน
นอกจากนี้บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นนโยบายบริหารต้นทุนการขนส่ง และ คลังสินค้า รวมทั้งประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เอเชียกรีน เอนเนอจี (AGE) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายปี 2560 นั้นมองว่ามีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากช่วงไตรมาสดังกล่าวเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ เพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้ความต้องการใช้ถ่านหินมีสูงโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า ส่งผลยอดการส่งออกถ่านหินไปยังประเทศจีน เวียดนาม และอินเดียเพิ่มขึ้น รวมทั้งการขยายตลาดภายในประเทศ โดยประมาณการณ์อัตราการเติบโตยอดขายในปีนี้ 25-30% จากปี 2559 ที่มีรายได้ 4,667.93 ล้านบาท
ทั้งนี้ นอกเหนือจากรายได้จากการขายถ่านหินโดยบริษัทฯได้มีการขยายธุรกิจบริการคลังสินค้าและท่าเรือ โดยการเพิ่มธุรกิจขนส่งทางน้ำ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ บริษัทฯเล็งเห็นช่องทางการเติบโต และได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ บริษัท เอจีอี มารีน โลจิสติกส์ จำกัด โดยมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจขนส่งทางน้ำ โดยปัจจุบันบริษัทฯได้รับมอบ เรือลำเลียง จำนวน 8 ลำ และได้เริ่มดำเนินการธุรกิจขนส่งทางน้ำต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2560 ที่ผ่านมา
ส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ จากธุรกิจโลจิสติกส์ และธุรกิจให้บริการคลังสินค้า ใน 2-3 ปีข้าหน้า อยู่ที่ประมาณ 5% ของรายได้รวม จากแผนการสั่งซื้อทำลำเลียงเพิ่มอีก จำนวน 4 ลำ ซึ่งคาดว่าจะทยอยส่งมอบในปี 2561 ส่งผลให้บริษัทฯมีจำนวนเรือ ครบ 12 ลำ และแผนการพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าซึ่งบริษัทฯได้มีการจัดซื้อในช่วงปีนี้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้บริการคลังสินค้าในอนาคต