กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ชู 3 นโยบายหลักด้านความปลอดภัยฯ ขับเคลื่อนความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของคนทำงานให้ยั่งยืน เน้นบังคับใช้กฎหมาย ควบคู่สร้างจิตสำนึกผ่านเครือข่ายประชารัฐด้านความปลอดภัยในการทำงาน กว่า 7 แสนคน
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาความเข้มแข็งของเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงานอย่างยั่งยืน หลักสูตร "การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงาน"" รุ่นที่ 2 วันที่ 12 พฤศจิกายน 2560 ณ โรงแรมปริ๊นส์ตั้น พาร์ค สวีท กรุงเทพฯ ว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานให้ความสำคัญกับการดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเพื่อป้องกัน แก้ไขการประสบอันตรายและโรคจากการทำงาน โดยมีนโยบายหลักในการดำเนินการที่สำคัญ 3 ประการ คือ 1.สร้างการรับรู้และจิตสำนึกด้านความปลอดภัยฯ 2.เคร่งครัดบังคับใช้กฎหมาย และ3.สร้างกลไกประชารัฐในการดำเนินการด้านความปลอดภัยฯ โดยในส่วนของการสร้างกลไกประชารัฐนั้น กสร.ได้มุ่งเน้นไปยังกลุ่มเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) ซึ่งเป็นบุคลากรที่พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 กำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้มีขึ้นทำหน้าที่สำคัญในการร่วมกับนายจ้างบริหารจัดการสภาพแวดล้อมในการทำงานเพื่อให้
สถานประกอบกิจการให้มีความปลอดภัย ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานที่ขึ้นทะเบียนสะสมกับกระทรวงแรงงาน ทั้งสิ้น 743,956 คน กลุ่มบุคคลเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการรับรู้ข้อกฎหมายและแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานไปยังนายจ้าง ลูกจ้างทั้งในและนอกสถานประกอบกิจการ ซึ่งจะส่งผลให้การขับเคลื่อนการดำเนินการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายทศพล กล่าวต่อว่า การจัดโครงการเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาความเข้มแข็งของเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงานอย่างยั่งยืน หลักสูตร "การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงาน"" รุ่นที่ 2 ในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในการพัฒนาศักยภาพด้านวิชาการให้แก่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) โดยมีจป. จากสถานประกอบกิจการต่าง ๆ จำนวน 120 คน เข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าวได้ส่งเสริมให้มีการร่วมกลุ่มเพื่อให้เกิดเป็นเครือข่ายความปลอดภัยแรงงานที่จะรวมทำงานกับกสร.ได้อย่างเข้มแข็งต่อไปด้วย