กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--กฟน.
ม.ร.ว.จิยากร เสสะเวช ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยว่าการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)ได้ทำการปรับปรุงแบบ ขอใช้ไฟฟ้าและสัญญาซื้อขายไฟฟ้าใหม่ ให้สอดคล้องกับเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่บัญญัติไว้ว่า สิทธิของบุคคล ย่อมได้รับการคุ้มครอง และได้ประสานงานให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ในการออกใช้สัญญาใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้า มั่นใจได้ว่า จะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์กล่าวว่า แบบขอใช้ไฟฟ้าและสัญญาซื้อขายไฟฟ้าใหม่ จะประกาศใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2544 เป็นต้นไป ถือเป็นของขวัญที่กฟน.มอบให้ กับผู้ใช้ไฟฟ้า ซึ่งในแบบขอใช้ไฟฟ้าและสัญญาซื้อขายไฟฟ้าใหม่นี้ มีสาระสำคัญที่แตกต่างจากสัญญาที่ใช้ในปัจจุบันหลายประการ เช่น การค้างค่าไฟฟ้าเกิน 10,000 บาท ในสัญญาปัจจุบัน กฟน.จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 แต่สัญญาใหม่จะคิดเบี้ยปรับรายวันในอัตราดอกเบี้ยขั่นต่ำของเงินกู้เบิกเกินบัญชี ( MOR ) ตามประกาศของธนาคารกรุงไทย บวกด้วย 2 ส่วนกรณีการตัดไฟนั้น ในสัญญาปัจจุบัน ถ้าผู้ใช้ไฟฟ้าผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่งจะถูกตัดไฟฟ้าทันที แต่สัญญาใหม่นี้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ใช้ไฟฟ้ามีระยะเวลา ชำระค่าไฟฟ้า 7 วัน นับแต่วันได้รับใบแจ้งหนี้ ถ้ายังไม่ชำระก็ยังไม่ตัดไฟฟ้าทันทีแต่จะมีหนังสือแจ้งเตือนอีกครั้งหากยังไม่ชำระค่าไฟฟ้าถึงจะดำเนินการตัดไฟฟ้า
นอกจากนี้ในสัญญาฉบับใหม่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าผู้ใช้ไฟฟ้าที่ขอเลิกใช้ไฟฟ้าและขอคืนเงินหลักประกันการใช้ไฟฟ้า กฟน.จะคืนเงินหลักประกันภายใน 20 วันทำการ นับตั้งแต่ผู้ใช้ไฟฟ้ายื่นเรื่องขอเลิกใช้ไฟฟ้า ส่วนกรณีที่มีการกระทำที่เครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าทำให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงผู้ใช้ไฟฟ้าจะรับผิดได้ต่อเมื่อมีหลักฐานเชื่อได้ ว่าผู้ใช้ไฟฟ้ามีเจตนากระทำผิดจริงหรือมีหลักฐานใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิด และหากกฟน.มีการแก้ไขสัญญาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องประกาศทางสื่อมวลชนให้ผู้ใช้ไฟฟ้า ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน หรือแจ้งให้ทราบพร้อมใบแจ้งหนี้
ม.ร.ว.จิยากร กล่าวต่อว่า แบบขอใช้ไฟฟ้าและสัญญาซื้อขายไฟฟ้าใหม่นี้ จะเห็นว่ามีการให้ความคุ้มครองผู้ใช้ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้นและเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ใช้ไฟฟ้า รายเดิมที่มีกว่า 2 ล้านราย กฟน.จึงได้ประกาศให้ข้อความในสัญญาใหม่นี้มีผลถึงผู้ใช้ไฟฟ้ารายเดิมทุกรายด้วย--จบ--
-อน-