กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--IR network
บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW) มั่นใจธุรกิจยังแข็งแกร่ง มีศักยภาพในการเติบโตได้ดีในทุกภาคส่วน รวมถึงสาขาในประเทศจีนด้วย เผยส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทในทุกกลุ่มธุรกิจยังดีขึ้นอีกด้วย ส่วนการขาดทุนในไตรมาส 3/60 ""วิวรรธน์ เหมมณฑารพ"" ชี้เป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศในไตรมาส 3 ที่ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ความต้องการบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นลดลงอย่างมาก มองข้ามช็อตไปถึงปี 2561 ยังสดใสต่อเนื่อง เพราะภาพโดยรวมของธุรกิจยังไปได้สวย ที่สำคัญมีปัจจัยหนุนจากงานนิวโมเดลโรงพ่นสี ชิ้นส่วนยานยนต์ และยอดขายบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นจากจีนคอยซัพพอร์ต
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) (PJW) ชี้แจงถึงผลประกอบการในไตรมาส 3 ที่ประสบภาวะขาดทุนว่า สาเหตุหลักเกิดจากสภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ที่ไม่ดีเท่าที่ควรทำให้ความต้องการบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นลดลงอย่างมาก รวมถึงบรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยวที่ลดลงจากการส่งออกของลูกค้าที่ต่ำกว่าเป้าหมาย ด้านชิ้นส่วนยานยนต์ก็มียอดขายลดลงโดยมีสาเหตุทั้งจากสภาพเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ที่ไม่ดี และเนื่องจากไม่มีรายได้ค่าโมลด์และทูลลิ่งเหมือนปีก่อน สำหรับโรงพ่นสียอดขายลดลงจากปีก่อนเนื่องจากอยู่ในช่วงปลายโมเดล
""จากยอดขายที่ลดลงกะทันหันนี้ ทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาระต้นทุนคงที่ต่างๆ เช่น ค่าเสื่อมราคา ค่าบริหาร ดอกเบี้ย เป็นต้น และจากการหารือกับลูกค้าหลายราย ในหลายส่วนงาน พบว่าเป็นการลดลงของยอดขายเพียงชั่วคราวเท่านั้น ทำให้บริษัทฯตัดสินใจที่จะไม่ปรับลดต้นทุนผันแปรด้านค่าจ้างพนักงานรายวันส่วนเกิน ซึ่งมีปริมาณมากเช่นกัน ทั้งนี้เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพนักงานฝีมือ ต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝนจนชำนาญหลายปี และเพื่อให้บริษัทยังสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อมียอดขายกลับเข้ามาเพิ่มเติมได้ จากเหตุผลต่างๆดังกล่าว ทำให้บริษัทประสบกับภาวะขาดทุนในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าผลประกอบการของบริษัทจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในไม่ช้า ตามการปรับตัวที่ดีขึ้นของสภาวะเศรษฐกิจไทย""
ส่วนโรงงานพ่นสี ปัจจุบันได้รับความน่าเชื่อถือว่าเป็นผู้ผลิตที่มีเทคโนโลยีชั้นนำและมีความน่าเชื่อถือเรื่องคุณภาพ ซึ่งส่งผลให้มีการทยอยปิดการขายได้อย่างต่อเนื่อง ในกลุ่มลูกค้ายานยนต์ ลูกค้ารถยนต์หลายค่ายซึ่งเป็นโมเดลใหม่ๆที่จะทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องซึ่งจะส่งผลให้มีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะใช้กำลังการผลิต 70% ในปี 2562 และเต็มกำลังการผลิต 100% ในปี 2563
""บริษัทฯ ประเมินว่าในปีหน้ารายได้ในภาพรวมทั้งปีจะขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยมีแรงสนับสนุนการเติบโตมาจากยอดขายนิวโมเดลของชิ้นส่วนยานยนต์ เนื่องจากในปี 2560อยู่ในช่วงออกผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการที่กำลังจะเป็นงานขายเพื่อเชิงพาณิชย์ในปี 2561 ในส่วนของโรงพ่นสี โดยฝ่ายบริหารยังคงเน้นย้ำการควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อให้ผลการดำเนินงานดีขึ้น นอกจากนี้ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในประเทศจีน โดยได้เริ่มมีการศึกษาในหลายมิติ และวางแผนขยายการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในประเทศจีนอีกด้วย โดยคาดว่าปี 2561ยอดขายบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นของประเทศจีนจะเติบโตได้ถึง 20%-30% "นายวิวรรธน์ กล่าวในที่สุด