กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--ปตท.
ด้วยจุดบริการจำหน่ายสินค้าชุมชน ผ่านเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ด้วยระบบโลจิสติกส์ของไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ และรูปแบบ E-Commerceตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพิ่มช่องทางการตลาดให้หมู่บ้าน กลุ่มเกษตรกรในการนำสินค้าจากชุมชนมาจำหน่าย และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยิ่งขึ้น
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และนางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมลงนามในพิธีบันทึกข้อตกลงระหว่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ณ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ เพื่อพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชน ผ่านระบบ E-Commerce ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ช่วยสนับสนุนให้ชุมชนสามารถกระจายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของชุมชน สินค้า OTOP และ SMEs ข้ามภูมิภาคได้อย่างทั่วถึงทั้งในและระหว่างประเทศ
นายอรรถพล เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ปตท. ได้นำศักยภาพของเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นจุดให้บริการจำหน่ายและกระจายสินค้าชุมชนทั้งในรูปแบบร้านค้าและระบบ E-Commerce โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมาช่วยขยายตลาด เพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ สร้างรายได้ที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงการพัฒนาสถานีบริการน้ำมันให้เป็นจุดหมายที่ทุกคนอยากเข้ามาซื้อสินค้าและใช้บริการ และเป็นศูนย์กลางของชุมชนตามแนวคิด PTT Living Community โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจพัฒนาและสรรหาสินค้าและบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคแต่ละพื้นที่เพื่อสร้างความสุขความประทับใจ พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทยได้เติบโตไปพร้อมกัน
ด้านนางสมร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปณท มีเครือข่ายขนส่งและโลจิสติกส์ที่เข้มแข็ง พร้อมบริการไปรษณีย์ที่หลากหลายรองรับความต้องการของชุมชน ผู้ประกอบการ SMEs และธุรกิจ E-Commerce ทุกประเภท เพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้แนวคิด ""ไปรษณีย์ไทย 4.0 มาตรฐาน ทันสมัย พึงพอใจลูกค้า"" นอกจากนี้ยังมีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับชุมชนผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข และโครงการไปรษณีย์ไทย...เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ซึ่งมีการพัฒนาชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสังคมให้เข้มแข็ง และยกระดับสินค้าชุมชนทั่วประเทศให้เข้าถึงระบบการจำหน่ายสินค้าบนโลกออนไลน์ผ่านโครงการ E-Commerce ชุมชน รวมของดีของเด่น 77 จังหวัด ภายใต้เว็บไซต์ www.thailandpostmart.com เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าชุมชนจากทั่วประเทศอีกด้วย โดยความร่วมมือกันระหว่าง 2 หน่วยงานครั้งนี้ ปณท จะใช้ระบบโลจิสติกส์ที่เข้าถึงได้ทุกครัวเรือนของ ปณท มาผนวกกับการเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายชุมชนระหว่างภูมิภาค รวมไปถึงผลักดันให้เกิดแหล่งเรียนรู้ของชุมชนในการดำเนินธุรกิจดิจิทัลตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนชุมชนทั่วประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
""ปตท. พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่ม SMEs เกษตรกร และ E-Commerce ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า จนสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ภายใต้ความร่วมมือของทั้ง 2 หน่วยงาน โดยนำจุดแข็งมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาที่สมดุลในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าและบริการให้สามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคอย่างครบครัน ควบคู่ไปกับการเติบโตเคียงข้างไปกับสังคมและชุมชน และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยตลอดไป"" นายอรรถพล กล่าวในตอนท้าย