กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--IR PLUS
FLOYD ประเมินแนวโน้มผลงานปี 2561 คาดรายได้ฟื้นตัวเติบโต 15 - 20% ผลจากการเร่งลงทุนของโครงการภาครัฐ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสีต่างๆ ทำให้ภาคเอกชนเริ่มกลับมามีความมั่นใจในการลงทุนอีกครั้ง ล่าสุดปีนี้ได้ลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 2 ราย เผยบริษัทอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานติดตั้งระบบหลาย โครงการ มูลค่าราว 80 - 200 ล้านบาท คาดทราบผลทั้งหมดในปีนี้ เผยผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2560 รายได้และกำไรปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้ลูกค้าเลื่อนการเปิดโครงการออกไป
นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการปี 2561 จะฟื้นตัวจากปี 2560 คาดว่ารายได้ปีหน้าโต 15 - 20% จากปีนี้ เนื่องจากภาคเอกชนที่ชะลอการลงทุนในปี 2559 เริ่มกลับมาทยอยลงทุน และเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2561 ประกอบกับการเร่งลงทุนของโครงการภาครัฐโดยเฉพาะรถไฟฟ้าสีต่างๆ ล่าสุดปีนี้บริษัทยังได้ลูกค้ารายใหม่ในธุรกิจห้างสรรพสินค้า คือ บมจ.โรบินสัน หรือ ROBINS ปัจจุบันกลุ่มโรบินสันกำลังขยายสาขาเอง ซึ่งบริษัทเข้าไปรับงานเมื่อไตรมาส 2/2560 ที่ผ่านมา คาดว่ามีโอกาสที่จะรับงานในสาขาต่อไปอีก และบมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท หรือ J ซึ่งเข้าไปรับงานปรับปรุงในโครงการ JAS สาขารามอินทรา และ The JAS สาขาวังหิน รวมทั้ง บริษัทได้ส่งทีมผู้บริหารเดินหน้าเข้าแนะนำตัวกับลูกค้ารายใหม่ เพื่อเร่งขยายฐานลูกค้าใหม่และเพิ่มความหลากหลายในประเภทงานที่ให้บริการ
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานติดตั้งระบบหลายโครงการ มูลค่าราว 80- 200 ล้านบาท ได้แก่ โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่พักอาศัยมูลค่า 40 - 50 ล้านบาท โครงการห้างสรรพสินค้ามูลค่า 70 - 80 ล้านบาท และโครงการประเภทอื่นๆ 70 -120 ล้านบาท โดยจะรับทราบผลการเข้าประมูลได้ภายในปีนี้ทั้งหมด รวมทั้งเข้าประมูลงานเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพิ่มรายได้ให้แข็งแกร่ง
""บริษัทมองว่าการลงทุนขยายโครงการต่างๆของลูกค้าในปี 2561 จะเพิ่มขึ้น หลังจากความเชื่อมั่นของการเติบโตเศรษฐกิจในประเทศกลับมาดีขึ้น ทำให้การขยายงานต่างๆกลับมา และเป็นโอกาสของบริษัทที่จะเข้าไปรับงานได้มากขึ้น"" นายทศพร กล่าว
หลังจากที่บริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เมื่อช่วงวันที่ 1 พ.ย.2560 ที่ผ่านมา เป็นโอกาสที่ดี ทำให้บริษัทฯ สามารถเข้าประมูลงานหรือเสนอการให้บริการในโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญในงานให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์ ติดตั้งระบบที่ครบวงจรให้แก่ลูกค้า ซึ่ง FLOYD สามารถเข้าไปรองรับงานได้
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในงวดไตรมาส 3/2560 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 107.65 ล้านบาท มีอัตราลดลง 25.89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 145.25 ล้านบาท เป็นผลมาจากลูกค้าหลักของบริษัทฯบางส่วนมีการชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ บริษัทมีกำไรสุทธิ 5.11 ล้านบาท ลดลง ลดลง 84.84% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 33.68 ล้านบาท การปรับตัวลดลงของกำไรสุทธิเป็นไปในทิศทางเดียวกับรายได้ ส่วนรายได้จากการให้บริการในงวด 9 เดือนแรกของปี 2560 มีจำนวน 231.12 ล้านบาท ลดลง 44% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 418.25 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 17.59 ล้านบาท ลดลง 79.25% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
""ยอมรับว่าผลประกอบการที่ออกมาต่ำกว่าเป้าหมาย เป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ลูกค้าบางส่วนได้เริ่มงานตามแผนงานก่อสร้างที่วางไว้ประกอบกับการขยายงานไปยังฐานลูกค้ารายใหม่ ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 255 ล้านบาท "" นายทศพร กล่าว