กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--บลจ.กรุงไทย
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีมติจ่ายเงินปันผล 3 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าประมาณ 690 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF) จ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 28 ในอัตรา 0.3325 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี. ทาวเวอร์ โกรท (CPTGF) จ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 15 ในอัตรา 0.1987บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 ( EGATIF) จ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 8 ในอัตรา 0.2100 บาทต่อหน่วย โดยทุกกองทุน จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 จ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 ธันวาคม 2560
กองทุน TTLPF ลงทุนในสิทธิการเช่าบางส่วนในโครงการตลาดไท ระยะเวลา 20 ปี กองทุน CPTGF ลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดิน และอาคารประเภทสำนักงานและศูนย์การค้า เป็นระยะเวลา 30 ปี ใน 3 ทำเล ได้แก่ อาคารซี.พี . ทาวเวอร์ 1 (สีลม) อาคารซี.พี. ทาวเวอร์ 2 (ฟอร์จูน ทาวน์ ) และอาคารซี.พี. ทาวเวอร์ 3 (พญาไท) กองทุน EGATIFลงทุนในสิทธิการรับรู้รายได้ค่าความพร้อมจ่าย ในอนาคตที่เกิดขึ้นจากโรงไฟฟ้า พระนครเหนือ ชุดที่ 1 ด้วยการเข้าทำสัญญากับกฟผ. ในสัญญาการเข้าลงทุน ในรายได้ค่าความพร้อมจ่าย ซึ่งมีอายุสัญญา 20 ปี นับจากวันที่กองทุนรวมเข้าลงทุน
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 178 ( KTFF 178 ) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ Bank of China , Agricultural Bank of China , Abu Dhabi Commercial Bank PJSC บัตรเงินฝาก China Cinstruction Bank , Bank of Communications , Industrial and Commercial Bank of China Ltd. ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 19% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ยกเว้น Abu Dhabi Commercial Bank PJSC ลงทุนในสัดส่วน5% ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.30%ต่อปี
สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะสั้นอายุคงเหลือน้อยกว่า 1 ปี มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายของนักลงทุนในประเทศเพื่อลดความเสี่ยงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ตราสารระยะกลางถึงยาวอัตราผลตอบแทนปรับตัวผันผวนในช่วงแคบ โดยตลาดไม่ตอบรับการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุคงเหลือ 5 ปี (LB22DA)ทำให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 5 ปี มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงอายุอื่น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนชาติมียอดซื้อสุทธิจำนวน 25,448 ล้านบาท
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต