กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บมจ. ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น ผู้จัดจำหน่ายลวดสลิง และอุปกรณ์ยกหิ้วคุณภาพสูงรายใหญ่ในประเทศไทย เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai 23 พ.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 867 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "THMUI"
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น ผู้จัดหา และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลวดสลิงและอุปกรณ์เพื่อใช้สำหรับยกหิ้วที่มีคุณภาพรายใหญ่ในประเทศไทย เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มบริการ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "THMUI" ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560
THMUI ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายลวดสลิง สลิงผ้าใบ โซ่ และอุปกรณ์ยกหิ้วคุณภาพสูงจากผู้ผลิตชั้นนำจากหลากหลายประเทศ ภายใต้แบรนด์ อาทิ คิสไวร์ (Kiswire), ไบรดอน (Bridon), อูช่า (Usha) และครอสบี้ (Crosby) รวมทั้งมีบริการทดสอบแรงดึง ติดตั้งเครนและเปลี่ยนลวดสลิง มีบริษัทย่อยเป็นผู้ให้บริการติดตั้ง แนะนำการใช้งาน และตรวจสอบสภาพเครนและลวดสลิง โดยมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ได้แก่ กลุ่มโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ กลุ่มอุตสาหกรรมท่าเรือ และกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็นต้น
THMUI มีทุนชำระแล้ว 170 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 242.93 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 97.07 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2560 ในราคาหุ้นละ 2.55 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 247.53 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 867 ล้านบาท มี บมจ. หลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายทชากร ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น (THMUI) เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้วรายใหญ่ในประเทศไทย เปิดดำเนินธุรกิจมากว่า 19 ปี เน้นจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพสูงจากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก สามารถนำเสนอสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร ทำให้ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศ ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม กลุ่มธุรกิจก่อสร้าง และกลุ่มท่าเรือ เป็นต้น การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ชำระคืนตั๋วแลกเงิน (BE) ซื้อเครื่องทดสอบแรงดึง และก่อสร้างโกดังสินค้า
THMUI มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวนายวีระพล ลีลาประชากุล ถือหุ้น 51.61% นางละออ ลีลาประชากุล ถือหุ้น 11.43% นางตวงหงส์ ลีลาประชากุล ถือหุ้น 2.86% และนางวิไล ปิ่นเกรียงไกร ถือหุ้น 2.86% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 23.18 เท่า คำนวณจากผลประกอบการ 4ไตรมาสล่าสุด (1 ตุลาคม 2559-30 กันยายน 2560) ซึ่งเท่ากับ 38.43 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.11 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมายตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัท
รายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.thaimui.net และที่เว็บไซต์ www.set.or.th