กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--โรงพยาบาลศิริราช
โรงพยาบาลศิริราช ยืนหยัดเคียงคู่คนไทยกว่า 129 ปี อาจเรียกได้ว่า สถานที่แห่งนี้ไม่เคยหลับ ยังเป็นความหวังของประชาชนจากทุกภาคส่วนของประเทศที่หลั่งไหลเข้ามารักษาไม่ขาดสาย ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งผลิตแพทย์ พัฒนาความรู้และวิทยาการทางการแพทย์ เพื่อส่งมอบการดูแลที่ดีที่สุดแก่ประชาชนคนไทย
จากวันที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ผู้พระราชทานกำเนิด รพ.ศิริราช มาจนถึงวันนี้ ภาพของบุคลากรศิริราชที่มุ่งมั่น ทุ่มเทรักษา เป็นที่ประจักษ์แก่คนไทยโดยถ้วนหน้า รอยยิ้ม และความสุขที่ผู้ป่วยได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว เป็นความภาคภูมิใจที่ส่งต่อบุคลากรศิริราชรุ่นแล้วรุ่นเล่า
หากแต่จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น คือ โจทย์สำคัญที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มุ่งหาแนวทางที่จะรองรับจำนวนของผู้ป่วย และให้ได้รับโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยด้วย จึงเป็นที่มาของโครงการก่อสร้างศูนย์การแพทย์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ เพื่อยกระดับการให้บริการผู้ป่วยอย่างครบวงจร ทั้งนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามว่า "อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา" กำกับชื่อภาษาอังกฤษว่า "Navamindrapobitr 84th Anniversary Building" นับเป็นอาคารสุดท้ายของศิริราชที่ได้รับพระราชทานนาม อันเป็นมงคลแก่โรงพยาบาลศิริราชและประชาชนคนไทย ด้วยความห่วงใยในพสกนิกรผู้เจ็บป่วยและต้องการที่พึ่งพิง
อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา สูง 25 ชั้น ใช้งบประมาณก่อสร้างราว 5,000 ล้านบาท ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ 2,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมถึงงบประมาณในการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์อีกประมาณ 1,800 ล้านบาท และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณารับเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุน เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถรองรับการบริการรักษาผู้ป่วยนอกประมาณ 500,000 ราย/ปี มีจำนวนเตียงผู้ป่วยสามัญหรือผู้ป่วยด้อยโอกาส 376 เตียง รองรับผู้ป่วยใน 20,000 ราย/ปี มีศูนย์ความเป็นเลิศ 14 ศูนย์ หอผู้ป่วยวิกฤต 62 ห้อง โดยไม่มีห้องพิเศษ รวมทั้งหน่วยตรวจต่างๆ อาทิ ผู้ป่วยด้านอายุรกรรม ประสาทวิทยา โรคไต โรคด้านจิตเวช ด้านกระดูกและข้อ ด้านรังสีวินิจฉัยและรังสีรักษา เป็นต้น โดยที่ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารไปจนถึงชั้นที่ 7 คาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2562
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า "ปัจจุบันอาคารแห่งนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่จะช่วยวินิจฉัย ให้การรักษาอย่างมีคุณภาพแก่ผู้ป่วย อาทิ เครื่องตรวจจับก้อนมะเร็ง, เครื่องปั๊มหัวใจ, เครื่องช่วยชีวิตทารกแรกคลอด, เครื่องซีทีสแกน และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเมื่ออาคารแห่งนี้มีครุภัณฑ์ทางการแพทย์พร้อมเปิดใช้บริการ ก็จะสามารถต่อชีวิตคนได้อีกนับล้าน เราจึงมุ่งหวังเชิญชวนประชาชนคนไทยได้เข้ามามีส่วนร่วมในการมอบโอกาส สร้างชีวิต ด้วยจำนวนเงินเพียง ๑ บาท ที่เราต่างทราบดีว่า แม้จะเป็นจำนวนเงินที่ดูเหมือนเล็กน้อย แต่เชื่อว่า เราทุกคนล้วนมีช่วงเวลาที่ได้เห็นคุณค่าของเงิน ๑ บาท ซึ่งในวันนี้ หากเราได้รวมพลังผ่านจำนวนเงิน คนละ ๑ บาท ด้วยความสมัครสมานสามัคคี น้ำหนึ่งใจเดียวกัน ก็จะเกิดโอกาสทางการรักษาให้ผู้ป่วยอีกหลายล้านคนต่อปี"
ด้าน ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือนเมษายน 2560 ที่ผ่านมา บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ และ ซูเปอร์คุ้ม ได้ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดตัวโครงการ พลังแห่ง "การให้" พลังแห่ง "ความสุข" โดยเชิญชวนประชาชนร่วมสมทบทุนสร้าง "อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา" อาคารหลัง สุดท้ายของศิริราช ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานนาม เพื่อให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางแบบครบวงจรสำหรับผู้ป่วยสามัญ เป็นการสานต่อพระราชปณิธานที่ต้องการให้ประชาชนได้รับบริการอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี และได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าและประชาชนทั่วไป โดยมียอดเงินบริจาคเข้าร่วมโครงการสูงมากเป็นประวัติการณ์ ถึง 17,725,409 บาท
ดังนั้น เพื่อสานต่อโครงการดังกล่าว ในนามของ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อชั้นนำของประเทศ จึงร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จัดโครงการ "บุญ ๑ บาท เพื่อล้านชีวิต" เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างบุญสมทบทุนซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราช เพื่อให้คนไทยทุกคนได้ร่วมบริจาคเงิน เริ่มต้นเพียง ๑ บาท ของทุกการใช้จ่าย 1 ครั้ง ผ่านการสแกนบาร์โค้ด ณ จุดแคชเชียร์ หรือกล่องบริจาคที่จุดบริการลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ , ท็อปส์ เดลี่, ซูเปอร์คุ้ม, อีทไทย, ท็อปส์ ออนไลน์, แฟมิลี่มาร์ท และมัตสึโมโตะคิโยชิ ทุกสาขาทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด "มาช่วยกันทำให้ 1 บาทของเราทุกคน กลายเป็นพลังที่ถูกส่งต่อให้คนอีกนับล้าน"
นอกจากนี้ ยังร่วมบริจาคผ่านกล่องรับบริจาค "บุญ ๑ บาท เพื่อล้านชีวิต" ภายในโรงพยาบาลศิริราช หรือบริจาคผ่านเลขที่บัญชี ธนาคารกรุงเทพ 939-3-50022-9, ธนาคารกสิกรไทย 987-1-00199-2, ธนาคารไทยพาณิชย์ 016-3-04546-0 หรือติดต่องานการเงิน ฝ่ายการคลัง อาคารชัยนาทนเรนทรานุสรณ์ รพ.ศิริราช โทร. 0 2419 7646-8 และบริจาคผ่านเว็บไซต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทาง https:// si-eservice.mahidol.ac.th/donation/
จึงขอเชิญชวนประชาชนคนไทย มาร่วมสร้างพลังแห่งความหวัง ด้วยพลังแห่งการให้ ในโครงการ "บุญ ๑ บาท เพื่อล้านชีวิต" เพื่อให้เงิน ๑ บาท จากการใช้ชีวิตในประจำวัน กลายเป็นบุญที่ได้ถูกส่งมอบไปสู่ผู้คนอีกมากมายในรูปของครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่จะเข้ามาเติมเต็มอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราช และเมื่อแล้วเสร็จ ประเทศไทยจะมีศูนย์การให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางที่ทันสมัย ครบวงจร เป็นการเพิ่มคุณภาพการบริการและการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยอย่างเสมอภาคและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
พลังแห่ง "การให้" พลังแห่ง "ความสุข"