กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
ครบครันด้วยสมรรถนะจากเทคโนโลยีล้ำยุค นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย นำโดย มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต (กลาง) ประธาน เปิดตัวนวัตกรรมรถยนต์รุ่นล่าสุดพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษจากรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในงาน Thailand International Motor Expo 2017 มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 34
32
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ต่อยอดประสบการณ์ยนตรกรรมเหนือระดับให้แก่แฟนๆ ชาวไทย ด้วยการยกทัพนวัตกรรมรถยนต์รุ่นล่าสุดพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยู และมินิ มุ่งหน้าสู่ Thailand International Motor Expo 2017 มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 34 จัดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม 2560 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี นำทัพโดย บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู i8 Protonic Frozen Yellow Edition บีเอ็มดับเบิลยู M2 Coupe และบีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe พร้อมตอบรับกระแสรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดด้วยสมาชิกใหม่ล่าสุดจากบีเอ็มดับเบิลยูอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury และบีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) รวมถึงที่สุดแห่งความหรูหราและสมรรถนะจากบีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive และอีกหนึ่งรุ่นย่อยพร้อมอุปกรณ์ตกแต่ง M ในรุ่นบีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport พร้อมทั้งรถยนต์อเนกประสงค์ พรีเมียม คอมแพ็ครุ่นใหม่ล่าสุดจากมินิ ประเทศไทย อย่าง มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่
"งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง" ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์อันยาวนานของบีเอ็มดับเบิลยู ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงสุดที่ตอกย้ำสถานะของเราในอุตสาหกรรมยานยนต์ เห็นได้จากรถยนต์ที่ผสมผสานทั้งสมรรถนะ ประสิทธิภาพ และความสะดวกสบาย ซึ่งพัฒนามาอย่างไม่หยุดยั้งของบีเอ็มดับเบิลยู" มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าว "ในปีนี้ เรายังคงยืนหยัดในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อเชื่อมต่อทุกมิติของการใช้ชีวิตในระดับพรีเมียม ควบคู่ไปกับการประหยัดพลังงานผ่านทางเทคโนโลยี iPerformance ด้วยทัพรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มอบทั้งสมรรถนะการขับขี่อันน่าพึงพอใจและการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน
อันเป็นข้อพิสูจน์ถึงเจตนารมณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู ที่ขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในสร้างผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด พร้อมร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย"
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังเพิ่มทางเลือกให้แก่แฟนๆ ชาวไทยที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับจากการเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูเป็นครั้งแรกในงาน Thailand International Motor Expo 2017 โดยได้นำทัพรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู ที่ผ่านการใช้งานแล้วแต่ยังคงคุณภาพเยี่ยม ภายใต้โปรแกรม BMW Premium Selection ซึ่งผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานของบีเอ็มดับเบิลยู อีกทั้งยังมีประวัติการเข้ารับบริการจากศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ
ไม่เคยมีอุบัติเหตุรุนแรง และไม่เคยเปลี่ยนแปลงสีตัวถัง พร้อมการรับประกันและคุ้มครองการบำรุงรักษาภายใต้โปรแกรม BMW Service Inclusive (BSI) ระยะเวลา 2 ปี สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และรับประกัน 1 ปี สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จึงสามารถอุ่นใจได้ในทุกการขับขี่ด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับโลก
32
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่
ราคาจำหน่าย 3,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
เปี่ยมพลังในสไตล์สปอร์ต พร้อมนวัตกรรมไร้ขีดจำกัด
บีเอ็มดับเบิลยู X3 รุ่นที่สามสืบทอดเจตนารมณ์ของรถยนต์รุ่นก่อนหน้าด้วยการผสานรูปลักษณ์แข็งแกร่งแบบออฟโรดเข้ากับความสปอร์ต สัดส่วนอันคุ้นตาของตัวรถ เช่นส่วนหัวและท้ายรถที่สั้น ล้วนเน้นย้ำให้เห็นถึงการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ระหว่างเพลาหน้าและหลังอย่างสมบูรณ์แบบ ความปราดเปรียวอันทรงพลังของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ ถูกเสริมให้ดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าไตคู่แบบหนา และไฟตัดหมอกแบบหกเหลี่ยมที่นำมาใช้เป็นครั้งแรกในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล X
ชุดแต่ง BMW Individual และ xLine เติมรูปโฉมของบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ โดยมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วลาย Y-spoke ภายในรถเฉียบคมด้วยความแม่นยำในการประกอบอย่างสมบูรณ์แบบและวัสดุคุณภาพเยี่ยม ส่งให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ คลาสสิคหรูหรายิ่งกว่ารถรุ่นก่อนหน้า พร้อมยกระดับความสะดวกสบายขึ้นอีกขั้นกับอุปกรณ์เสริมใหม่ล่าสุดด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน ชุดไฟเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสาร 6 สี ม่านบังแดดด้านข้างผู้โดยสารตอนหลังแบบอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นมาตรฐานในส่วนเก็บสัมภาระด้วยพนักพิงเบาะหลังแบ่งพับแบบ 40:20:40 และหลังคากระจกแบบพาโนรามาที่เสริมให้ภายในตัวรถโปร่งสบายยิ่งขึ้น ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู
X3 xDrive20d xLine ใหม่ โดดเด่นยิ่งกว่า พร้อมอีกหนึ่งอุปกรณ์ใหม่อย่าง BMW Display Key ที่ไม่เพียงล็อคและปลดล็อคบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ ด้วยสัญญาณวิทยุทางไกล แต่ยังแสดงสถานะและข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานอื่น ๆ ของรถอีกด้วย
เครื่องยนต์ทรงประสิทธิภาพยิ่งกว่า ควบคู่การออกแบบเน้นน้ำหนักเบา
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ โฉบเฉี่ยวด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ทำงานประสานเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic เครื่องยนต์อันทรงพลังให้กำลังสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ส่งให้บีเอ็มดับเบิลยู
X3 xDrive20d xLine ใหม่ เร่งเครื่องจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8 วินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานทำความเร็วสูงสุดที่ 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้านอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 17.6 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 150 กรัมต่อกิโลเมตร
เทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ถูกนำมาใช้ในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ ซึ่งรวมถึงระบบส่งกำลังที่ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการออกแบบทุกสัดส่วนเน้นน้ำหนักเบา เช่น การนำอลูมิเนียมมาใช้เป็นส่วนประกอบมากขึ้นในเครื่องยนต์และช่วงล่างที่ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถได้มากขึ้น
ต่อยอดที่สุดแห่งความเพลิดเพลินในการขับขี่และระบบควบคุมล้ำสมัย
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ มาพร้อมกับปุ่มควบคุม iDrive สั่งงานด้วยระบบสัมผัสและจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW gesture control) ช่วยควบคุมระบบนำทางและฟังก์ชั่นสาระบันเทิงต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
ในขณะเดียวกัน ระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) ซึ่งผู้ขับขี่ใช้ภาษาในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย แทนคำสั่งที่มีการตั้งค่าไว้
32
บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย 4,739,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
รถยนต์ Gran Turismo รุ่นดั้งเดิมอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 Gran Turismo นั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างอย่างชัดเจน ด้วยการผสมผสานประโยชน์ใช้สอยแบบรอบด้านจากรูปลักษณ์ของตัวถัง เข้ากับความสะดวกสบายและพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเป็นพิเศษ จึงพร้อมมอบประสบการณ์สุด ผ่อนคลายบนทุกเส้นทาง จุดเด่นทั้งหมดนี้ได้ถูกนำมาขัดเกลาและรวบรวมไว้ในรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 6 Gran Turismo ที่ต่อยอดจากความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 Gran Turismo ทั้งในด้านความหรูหราแบบสปอร์ต อุปกรณ์และฟีเจอร์ทันสมัย ระบบการควบคุมและช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัย พร้อมด้วยความปราดเปรียวและประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด
เบากว่า สปอร์ตกว่า พร้อมสะดวกสบายและทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ด้วยการออกแบบที่เน้นน้ำหนักเบา และการเลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมและเหล็กกล้าคุณภาพสูงในส่วนโครงสร้างตัวรถและแชสซี บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ จึงมีน้ำหนักลดลงจากรุ่นก่อนหน้าราว 150 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อนำไปผสมผสานกับคุณสมบัติทางอากาศพลศาสตร์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเครื่องยนต์ใหม่ที่ทรงพลังและเปี่ยมประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงทำให้บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ มีสมรรถนะสไตล์สปอร์ตที่เปี่ยมพลังกว่าที่เคย ทั้งยังประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบที่เป็นหัวใจของบีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ เสริมกำลังด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ล้ำสมัย ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic มอบพละกำลังสูงสุดที่ 195 กิโลวัตต์ / 265 แรงม้า พร้อมให้แรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร จึงเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 6.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 17.7 กิโลเมตรต่อลิตร และ 149 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
ดีไซน์เน้นย้ำสัดส่วนปราดเปรียวและเส้นสายเรียบหรู
ด้านหน้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างและทรงพลังด้วยเลนส์ไฟหน้า LED ที่ทอดยาวไปจนถึงกระจังหน้ารูปไตคู่ขนาดใหญ่ เมื่อมองจากด้านข้างแล้ว จะเห็นได้ถึงความหรูหราสไตล์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู โดดเด่นด้วยฟีเจอร์คุ้นตาเช่นฝากระโปรงหน้าทรงยาว ห้องโดยสารที่ค่อนไปทางด้านหลังของตัวรถ ประตูที่มาพร้อมกับหน้าต่างแบบไร้กรอบ และแนวขอบหน้าต่างที่ลากยาวไปจนถึงท้ายตัวรถ ส่วนหลังคารถลาดเทลงมาบรรจบกับส่วนท้ายรถในสไตล์โฉบเฉี่ยวแบบรถยนต์คูเป้ ขณะที่ช่วงท้ายรถเองก็มีความสูงลดลง 64 มิลลิเมตร ด้านไฟท้ายออกแบบมาในสไตล์สามมิติ เสริมความโดดเด่นให้น่าค้นหายิ่งขึ้น ชุดแต่ง M Aerodynamics ขับเน้นบุคลิกความสปอร์ตของบีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ ให้โดดเด่นไม่ซ้ำใครยิ่งขึ้น
สุดยอดส่วนผสมแห่งความเพลิดเพลินในการขับขี่ ความสะดวกสบายในการเดินทางไกลและประโยชน์ใช้สอย
ภายในรถถูกออกแบบเพื่อเน้นความสะดวกสบายในการควบคุมรถของผู้ขับขี่ พร้อมด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางเป็นพิเศษ เบาะที่นั่งยกสูงเปิดมุมมองที่ครอบคลุมทุกทิศทางให้กับผู้ขับขี่ ขณะที่การจัดวางฟังก์ชั่นการควบคุมต่าง ๆ เป็นไปตามหลักสรีรศาสตร์อย่างไร้ที่ติ จึงสร้างความเพลิดเพลินในการขับขี่ได้ถึงขีดสุด เส้นสายต่าง ๆ วัสดุที่ใช้ และความประณีตแม่นยำในการตกแต่ง เสริมความพรีเมียมหรูหราให้กับห้องโดยสารยิ่งขึ้น ส่วนห้องโดยสารด้านหลังของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ ประกอบไปด้วย 3 ที่นั่งขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่วางขาที่กว้างขวาง
บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ สะดวกต่อการใช้งานด้วยประตูท้ายรถแบบบานเดี่ยวที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เบาะที่นั่งปรับเอนได้แบบ 40:20:40 สามารถพับให้เป็นพื้นราบสำหรับเก็บสัมภาระได้ด้วยปุ่มกดบริเวณพื้นที่กระโปรงท้าย ส่วนฝาปิดช่องเก็บสัมภาระแบบสองชิ้น มาพร้อมกับโครงสร้างแข็งแกร่งทนทาน และสามารถพับเก็บไว้ใต้พื้นกระโปรงท้ายได้
บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบควบคุมและแสดงผลชั้นเยี่ยม นำเสนอที่สุดแห่งความครบถ้วนในการควบคุมรถยนต์ การนำทาง รวมถึงฟังก์ชั่นการสื่อสารและระบบบันเทิงได้อย่างไม่มีใครเทียบ ด้วยระบบ iDrive ที่เป็นแกนหลักของการสั่งงานรถยนต์รุ่นนี้ ทั้งยังเสริมประสิทธิภาพการใช้งานด้วยระบบสัมผัสบนหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) และระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW gesture control)
32
บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่
ราคาจำหน่าย 13,539,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่ สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่รถยนต์ในเซกเมนต์ซีดานหรู ด้วยประสบการณ์ นุ่มนวลเหนือระดับในการขับขี่ที่มาพร้อมขีดสุดของขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 12 สูบ ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี BMW M Performance TwinPower Turbo ส่งพละกำลังสูงสุด 448 กิโลวัตต์/610 แรงม้า ที่ 5,500-6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ที่ 1,550-5,000 รอบต่อนาที และด้วยสมรรถนะจากเทคโนโลยีล้ำยุคของ M Performance TwinPower Turbo บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียงแค่ 3.7 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอบพลังแห่งความเร็วควบคู่ไปกับการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Steptronic Sport พร้อมระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ
ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอก บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่แสดงถึงจิตวิญญาณของความปราดเปรียวแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล M Performance อย่างชัดเจน ชุดแต่ง M Aerodynamics มาพร้อมกับล้อ อัลลอย M ลาย Double-spoke ขนาด 20 นิ้ว และสปอยเลอร์ท้ายดีไซน์ M อีกทั้งยังพกพาอุปกรณ์ภายนอกที่โดดเด่นอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟสูงเทคโนโลยีเลเซอร์ ระบบช่วยปิดประตูแบบผ่อนแรงกระแทก หลังคากระจก Sky Lounge เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและด้านหลัง กล้องแสดงภาพรอบตัวรถ ระบบช่วยการนำรถเข้าที่จอด และฟังก์ชั่นจอดรถด้วยกุญแจรีโมทโดยปราศจากผู้ขับขี่
ดีไซน์ภายในตัวรถบีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่ ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของบีเอ็มดับเบิลยู M Performance ด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแท้ดีไซน์ M พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ paddle shift เบาะนั่งบุด้วยหนังแท้ Merino แบบ comfort ปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งและฟังก์ชั่นนวดผ่อนคลายทั้งตอนหน้าและตอนหลัง คอนโซลและภายในตัวรถตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาแบบ piano finish
เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยูในตระกูลซีรีส์ 7 รุ่นอื่น ๆ บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่ มาพร้อมจอภาพแสดงผลแบบสัมผัสในระบบ iDrive ขนาด 10.25 นิ้ว และระบบสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวมือ หรือ BMW Gesture Control System ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวด้วยเซนเซอร์สามมิติ สามารถใช้สั่งการระบบบันเทิงและการสื่อสารได้อย่างสะดวกและง่ายดาย โดยสามารถใช้ได้กับการควบคุมระดับเสียง และการรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้า นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยระบบบันเทิงพร้อมจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพลิดเพลินกับความบันเทิงด้วยระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูงจาก Bowers & Wilkins รวมทั้งการเชื่อมต่อและชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
32
บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport
ราคาจำหน่าย 3,939,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury
ราคาจำหน่าย 3,639,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบรุ่นใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุดถึง 135 กิโลวัตต์/ 184 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 290 นิวตันเมตร ในขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 83 กิโลวัตต์/ 133 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกัน เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังรวมสูงสุดถึง 185 กิโลวัตต์/ 252 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุดกว่า 420 นิวตันเมตร ด้านอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 55.6 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อย CO2 ที่ 41 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.2 วินาที และเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากโหมด SPORT, COMFORT และ ECO PRO ผู้ขับขี่สามารถใช้ eDrive เพื่อเปิดการใช้งานระบบ BMW eDrive ซึ่งช่วยให้ทุกการเดินทางแม่นยำมากขึ้นด้วยอีก 3 โหมดเพิ่มเติม คือ AUTO eDRIVE,
MAX eDRIVE และ BATTERY CONTROL สำหรับแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู
530e iPerformance ทั้ง 2 รุ่นนี้สามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป ใช้เวลาในการชาร์จน้อยกว่า 5 ชั่วโมง หรือหากชาร์จด้วยอุปกรณ์บีเอ็มดับเบิลยู ไอ วอลล์บ็อกซ์ เพียว (BMW i Wallbox Pure) ที่ทั้งปลอดภัย ใช้งานง่าย และรวดเร็วด้วยกำลังไฟถึง 3.7 กิโลวัตต์ (16 แอมป์ / 230 โวลท์) จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอด (Parking Assistance) จะทำให้การจอดรถด้วยระบบอัตโนมัติง่ายดายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถแบบแนวขนานหรือเข้าซอง พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษเพิ่มเติม โดยในรุ่นนี้ ระบบสามารถจอดรถได้ในพื้นที่จอดที่มีความยาวกว่าตัวรถเพียง 80 เซนติเมตร ช่วยให้การเข้าจอดในพื้นที่จำกัดสามารถทำได้ดียิ่งขึ้น ระบบอัลตร้าโซนิคเซ็นเซอร์ (ultrasonic sensors) สามารถช่วยค้นหาพื้นที่จอดที่เหมาะสมได้ในขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงสุด 35 กม./ชั่วโมง โดยเมื่อพบจุดจอดแล้ว ระบบจะทำการจอดรถเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเกียร์ หมุนพวงมาลัย ตลอดจนผ่อนคันเร่งหรือเบรกโดยอัตโนมัติ และในกรณีที่พื้นที่จอดรถทำมุมกับถนน ระบบจะต้องการพื้นที่ว่างด้านข้างตัวรถเพียงข้างละ 40 เซนติเมตรเท่านั้นในการทำงานแบบอัตโนมัติ
เช่นเดียวกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ รุ่นอื่น ๆ ข้อมูลระบบนำทาง โทรศัพท์ ระบบความบันเทิง และฟังก์ชันต่าง ๆ ของตัวรถ ถูกนำมารวมเข้าไว้กับหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ซึ่งนอกจากจะควบคุมโดยปุ่ม iDrive Controller ยังสามารถสั่งการด้วยการกดปุ่มบนหน้าจอ หรือด้วยระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) อีกด้วย ระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW gesture control) เสนอการใช้งานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและสะดวกสบายในทุกฟังก์ชั่นด้วยการขยับมือหรือนิ้วมือเท่านั้น
บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport อวดความปราดเปรียวด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วลาย Double-Spoke ระบบจอภาพแสดงข้อมูลการขับขี่ (BMW Head-Up Display) หลังคากระจกเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า ขอบหน้าต่างภายนอกตกแต่งแบบ BMW Individual high-gloss พร้อมชุดตกแต่งภายนอก
M Aerodynamics ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลาย
W-Spoke ชุดตกแต่งภายนอกแบบ chrome line ส่วนภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยไม้ในแบบ Fineline Ridge พร้อมแถบโครเมียม เสริมความหรูหราให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
32
บีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic)
ราคาจำหน่าย 2,259,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) เป็นสปอร์ตซีดานพันธุ์แท้ที่ออกแบบมาเพื่อที่สุดแห่งสุนทรียภาพการขับขี่ ประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี iPerformance ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบและเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู TwinPower Turbo ที่ทรงพลัง ส่งกำลังสูงสุดได้ถึง 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า พร้อมแรงบิด
290 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ามอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 65 กิโลวัตต์ / 89 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ทำงานประสานกันกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมให้สมรรถนะที่ตอบสนองได้ทันใจในเสี้ยววินาที ทั้งยังมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำเพียง 55.6 กิโลเมตรต่อลิตร และลดระดับมลภาวะในการขับขี่กับอัตราการปล่อย CO2 ที่ 42 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น แต่ยังคงความทรงพลังในสไตล์สปอร์ตด้วยอัตราเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.1 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) สามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป ใช้เวลาในการชาร์จให้เต็มประมาณ 3 ชั่วโมง หรือหากชาร์จด้วยอุปกรณ์บีเอ็มดับเบิลยู ไอ วอลล์บ็อกซ์ เพียว (BMW i Wallbox Pure) ที่ทั้งปลอดภัย ใช้งานง่าย และรวดเร็วด้วยกำลังไฟถึง 3.7 กิโลวัตต์ (16 แอมป์ / 230 โวลท์) จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง
บีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตที่สะดุดตา โฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลาย Double-Spoke พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบสปอร์ต ภายในตกแต่งด้วยวัสดุผิวหน้าอลูมิเนียมแต่งลายเส้นทางยาวพร้อมแถบโครเมียม เบาะนั่งปรับไฟฟ้าและระบบจำตำแหน่งสำหรับคนขับ จอภาพขนาด 6.5 นิ้ว และระบบความปลอดภัยแบบครบครันที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน
32
บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย 2,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่ ผสมผสานพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางของรถยนต์สปอร์ต
ซีดานและความจุสัมภาระของรถยนต์อเนกประสงค์ไว้ได้อย่างลงตัว เพลิดเพลินในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด
400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที สามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.7 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุด 226 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 27.0 กิโลเมตรต่อลิตร ขณะที่ระดับการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 99 กรัมต่อกิโลเมตร
ด้วยความยาวของตัวรถ 4,824 มิลลิเมตร บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport จึงมีมิติความยาวของตัวถังที่ยาวกว่าบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 รุ่นอื่น ๆ ราว 200 มิลลิเมตร นอกจากนี้ช่องเก็บสัมภาระอเนกประสงค์ท้ายรถยังมีความจุสูงสุดถึง 1,600 ลิตร บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่จึงมีประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอย M Sport ลาย Double-spoke ขนาด 19 นิ้ว และขอบหน้าต่างแบบ High-Gloss Shadow Line พร้อมทั้งเติมเต็มลุคสปอร์ตด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics
ดีไซน์ภายในตัวรถบีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่ ประดับคอนโซลด้วยวัสดุ Aluminium ลายHexagon ตัดด้วยเส้นสายสีดำเงาเข้าชุดกับพวงมาลัยหนังแท้แบบ M Sport พร้อมแป้น gearshift paddle อีกทั้งยังมาพร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว ระบบนำทางล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยู ระบบ
iDrive Touch Controller และฟังก์ชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมระบบบันเทิงและการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Servotronic ระบบไฟหน้า LED ปรับอัตโนมัติ และโหมดการขับขี่ Driving Experience Control ต่าง ๆ
32
บีเอ็มดับเบิลยู i8 Protonic Frozen Yellow Edition
ราคาจำหน่าย 11,839,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i8 Protonic Frozen Yellow Edition เป็นรถยนต์สปอร์ต 4 ที่นั่ง (2+2) รุ่นพิเศษที่ผลิตในช่วงเวลาที่จำกัด โดดเด่นด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่ทำจากวัสดุ CFRP (carbon-fibre-reinforced plastic) และระบบส่งกำลังไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู eDrive มาพร้อมดีไซน์เรียบหรูดุดันด้วยตัวถังสีเหลือง Frozen Yellow พร้อมเสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบผิวด้าน ลาย W-spoke ขนาด 20 นิ้ว ส่วนดีไซน์ภายในสวยงามไม่แพ้กันด้วยวัสดุที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูงและเซรามิก ให้ความรู้สึกสมกับเป็นรถสปอร์ตอย่างแท้จริง
ระบบส่งกำลังแห่งอนาคต บีเอ็มดับเบิลยู eDrive ของบีเอ็มดับเบิลยู i8 ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู TwinPower Turbo ที่ส่งกำลัง 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า พร้อมแรงบิด 320 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีพละกำลัง 96 กิโลวัตต์ / 131 แรงม้า พร้อมแรงบิด 250 นิวตันเมตร นอกจากนี้ ระบบส่งกำลัง บีเอ็มดับเบิลยู eDrive ยังใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังไฟสูงและระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ เพื่อส่งกำลังรวม 266 กิโลวัตต์ / 362 แรงม้าได้อย่างเต็มสมรรถนะและประหยัดพลังงานสูงสุด
เมื่อใช้โหมดการขับขี่โดยใช้ไฟฟ้าไม่มีการปล่อยไอเสียเลย บีเอ็มดับเบิลยู i8 สามารถขับขี่ด้วยความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นระยะทางถึง 37 กิโลเมตร และสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง โดยสามารถเลือกชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป หรืออุปกรณ์ บีเอ็มดับเบิลยู ไอ วอลล์บ็อกซ์ เพียว (BMW i Wallbox Pure) นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู i8 ผสานพลังเพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่โดดเด่นเหนือใคร พร้อมตอบสนองความต้องการในทุกเส้นทาง สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 4.4 วินาทีเมื่อขับขี่ในโหมดสปอร์ต
ทั้งยังมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานและการปล่อยไอเสียที่เหนือชั้นกว่ารถสปอร์ต ทุกรุ่นในตลาด ด้วยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 47.6 กิโลเมตรต่อลิตรและอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 เพียง 49 กรัมต่อกิโลเมตร ด้วยการเปิดตัวรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i8 รุ่นพิเศษ รวมทั้งรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล iPerformance รุ่นต่างๆ ที่เติบโตขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป สามารถสานต่อความเป็นผู้นำในด้านยนตรกรรมเพื่ออนาคตแห่งความยั่งยืน อีกทั้งยังยืนหยัดในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของตลาดยานยนต์พรีเมียมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก
32
บีเอ็มดับเบิลยู M2 Coupe
ราคาจำหน่าย 5,939,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู M2 Coupe ยนตรกรรมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสปอร์ตโดยเฉพาะ
มาพร้อมขุมพลัง บีเอ็มดับเบิลยู M TwinPower Turbo 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 370 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที ทำงานประสานกับเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ จึงตอบสนองการขับขี่ได้ในทุกจังหวะด้วยอัตราเร่ง
0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 4.3 วินาที และความเร็วสูงสุดถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู M2 Coupe มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน พร้อมกระจังหน้าในแบบเอกลักษณ์ของรถยนต์ตระกูล M
ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 19 นิ้ว M Double Spoke และโดดเด่นด้วยท่อไอเสียคู่แยกออก 2 ทาง ขอบหน้าต่างสีดำเงา มาพร้อม Adaptive LED หรือระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะปรับตามทิศทางหมุนของพวงมาลัย กระจกซันรูฟ กล้องและเซ็นเซอร์ด้านหลัง
ส่วนห้องโดยสารหรูหราปราดเปรียวด้วยโทนสีดำ พร้อมงานออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งหลังคาภายในสี Anthracite พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มด้วยหนังแบบ M และเบาะหนังประทับตราสัญลักษณ์อักษร M จึงสะท้อนถึงความเร้าใจในการขับขี่แบบรถสปอร์ตพันธุ์แท้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ยังมีระบบ BMW Apps ที่รองรับการเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เช่น M Laptimer ที่ช่วยบันทึกและวิเคราะห์การขับขี่ พร้อมทั้งแชร์ข้อมูลผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้ หรือ GoPro สำหรับการควบคุมกล้องวิดีโอทั้งภายในและภายนอกตัวรถ และเพลิดเพลินไปกับระบบเสียงไฮไฟ Harman Kardon
32
32
บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe
ราคาจำหน่าย 8,439,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe โดดเด่นด้วยตราสัญลักษณ์ M ซึ่งสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับรถยนต์สไตล์สปอร์ตตระกูล M ที่มีเครื่องยนต์เป็นหัวใจสำคัญ โดยเครื่องยนต์เบนซิน BMW M TwinPower Turbo 6 สูบในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe ใช้ชุดอัดอากาศแบบเทอร์โบคู่ สามารถส่งกำลังสูงสุดได้ถึง 431 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตรที่ 1,850 – 5,500 รอบต่อนาที ซึ่งมากกว่าแรงบิดสูงสุดของรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมอย่างบีเอ็มดับเบิลยู M3 ประมาณ 40% แม้จะมาพร้อมสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น แต่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe ยังประสบความสำเร็จในการลดอัตราสิ้นเปลืองพลังงานและอัตราการปล่อยมลพิษได้ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ที่เฉลี่ย 12.3 กิโลเมตรต่อลิตร และสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 4.1 วินาที ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบคลัชท์คู่ M 7 สปีด
หัวใจแห่งความสำเร็จของสมรรถภาพทรงพลังสูงสุดและประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมเกิดขึ้นจากการลดน้ำหนักของตัวรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe ได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 80 กิโลกรัม และด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงน้ำหนักที่เบานี้เอง ส่งผลให้รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe นี้สร้างมาตรฐานใหม่ของคอนเซ็ปต์โดยรวม และการตอบสนองที่แม่นยำและความคล่องตัว ด้วยดีไซน์อัจฉริยะที่คัดเลือกวัสดุที่มีน้ำหนักเบา โดยใช้พลาสติกเสริมใยคาร์บอน (CFRP) และอะลูมิเนียมมาเป็นส่วนประกอบของโครงแชสซีและตัวถัง นอกจากนี้ หลังคาของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe ยังสร้างจากวัสดุคาร์บอนเสริมใยทั้งหมด
ภายในของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe โฉบเฉี่ยวในดีไซน์สปอร์ต ด้วยพวงมาลัยและเบาะที่นั่งแบบ
M Sport บุหนังแท้ Merino เสริมความหรูหราด้วยการตกแต่งอะลูมิเนียมลาย Blade พร้อมแถบโครเมียม
สีดำ มาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน ม่านบังแดดกระจกหลังไฟฟ้า และสะดวกสบายด้วยการเชื่อมต่อเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ Head-Up Display ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon และแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน
32
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่
ราคาจำหน่าย 3,548,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ MSI Standard)
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ รถยนต์เอนกประสงค์ พรีเมียม คอมแพ็ค ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบสปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์แบบ สะท้อนจิตวิญญาณรถแข่งโกคาร์ทอันเป็นเอกลักษณ์ของมินิ ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง ระบบช่วงล่าง และชุด aerodynamics ในแบบฉบับจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ ALL4 และขุมพลังจากเทคโนโลยี มินิ Twin Power Turbo มอบความเร็วเร้าใจด้วย กำลังสูงสุด 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 6.5 วินาที ในความเร็วสูงสุด 234 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,450 – 4,500 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 14.2 กิโลเมตรต่อลิตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่
161 กรัมต่อกิโลเมตร ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบสปอร์ตพร้อมแป้น paddle shift บนพวงมาลัย มอบสมรรถนะรวดเร็วทันใจ ขับขี่ได้คล่องตัวทุกความท้าทายในทุกสภาพท้องถนน
ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ บ่งบอกถึงสมรรถนะความสปอร์ตและความปราดเปรียว ล้ออัลลอยแบบ John Cooper Works Course Spoke ขนาด 19 นิ้ว และเอกลักษณ์จานเบรคสีแดง พร้อมด้วยโลโก้จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ และชุด aerodynamics มอบความรู้สึกทรงพลังแก่รถยนต์มินิเจเนอเรชั่นใหม่นี้
ภายในมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ ยังพกพาชุดแต่งในตระกูลจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ขนานแท้ที่ทำให้การขับขี่ในวันธรรมดา เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจราวกับอยู่ในสนามแข่ง ด้วยที่นั่งแบบยกสูงและดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง ทั้งพวงมาลัยหนังแท้และเบาะสปอร์ตสไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลแม้ระหว่างขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบแสดงผล Head-Up Display อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่โดยแสดงผลข้อมูลต่างๆ โดยไม่รบกวนการมองถนน เสริมสมรรถนะการขับขี่ในระดับรถแข่งพันธุ์แท้ ด้วยความคลาสสิกสไตล์มินิอย่างแท้จริง
32
ข้อเสนอพิเศษในงาน Thailand International Motor Expo 2017
ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่ทำการจองรถยนต์ภายในงาน Thailand International Motor Expo 2017 สามารถเลือกใช้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงิน BMW FREEDOM CHOICE เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้จ่าย พร้อมให้อิสระทางการเงินที่มากกว่าการทำสัญญาเช่าซื้อทั่วไป ด้วยเงินดาวน์เริ่มต้นเพียง 15% การรับประกันมูลค่ารถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในอนาคต รวมทั้งเปิดทางเลือกให้แก่ลูกค้าในการจัดการกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาสัญญา ถึง 4 ทางเลือกด้วยกัน ได้แก่
ส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูคืนให้แก่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ผ่านผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
เริ่มต้นสัญญาใหม่สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูคันใหม่
เลือกเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู โดยชำระเงินก้อนสุดท้าย
ขยายเวลาผ่อนชำระเงินก้อนสุดท้ายออกไปเป็นระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 4 ปี
ลูกค้าที่จองรถยนต์มินิภายในวันที่ 23 พฤศจิกายนถึง 11 ธันวาคม 2017 และรับส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2017 จะได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้
สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มินิภายในวันที่ 23 พฤศจิกายนถึง 11 ธันวาคม 2017 รับฟรี iPhone X
สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มินิภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2017 รับฟรี ลำโพงไร้สาย Harman Kardon Esquire Mini Wireless Bluetooth Speaker
ฟรีโปรแกรมบำรุงรักษา MINI Service Inclusive (MSI) 3 ปี หรือ 60,000 กม. และการรับประกันนาน 3 ปี พร้อมการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ (Mobility Service) ระยะเวลา 5 ปี
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญดังกล่าวหรือผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ จาก
บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ได้ทาง BMW Contact Center โทร. 1-800-269-269 หรือติดต่อได้ที่ผู้จำหน่ายของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
32