กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--โฟร์พีแอดส์ (96)
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประเมินคุณภาพห้องปฏิบัติการที่ทำการตรวจเอชไอวีซีโรโลยีของเครือข่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อประกันคุณภาพผลการตรวจวิเคราะห์ว่า มีความถูกต้องแม่นยำ และมีข้อมูลสำหรับการวางแผนพัฒนาประสิทธิภาพห้องปฏิบัติการสมาชิก ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในการให้บริการของสถานพยาบาล และหน่วยงานสาธารณสุขมีระบบคุณภาพตามมาตรฐาน
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า การตรวจเชื้อ HIV มีความสำคัญ จำเป็นต้องมีความถูกต้อง เชื่อถือได้ เพื่อให้ผู้มารับการตรวจมีความมั่นใจว่าได้รับการบริการที่มีคุณภาพ ดังนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงจัดให้มีโครงการประเมินคุณภาพห้องปฏิบัติการตรวจเอชไอวีซีโรโลยีแห่งชาติ (National External Quality Assessment Scheme for HIV Serology Testing)โดยเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2537 ปัจจุบันมีโรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ กว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข เป็นแม่ข่ายในการดำเนินงานและจัดเตรียมตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินเพื่อให้ได้ตัวอย่างที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยมีศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 4 แห่งในแต่ละภาคของประเทศ ได้แก่ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 เชียงใหม่ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 6 ชลบุรี ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 8 อุดรธานี และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา เป็นผู้ร่วมดำเนินงานในพื้นที่บริการที่รับผิดชอบครอบคลุมห้องปฏิบัติการทั่วประเทศ เพื่อประเมินคุณภาพห้องปฏิบัติการตรวจเอชไอวีซีโรโลยี เปรียบเทียบผลและคุณภาพการตรวจวิเคราะห์ระหว่างห้องปฏิบัติการ รวมทั้งเป็นข้อมูลสำหรับการประกันคุณภาพ และการวางแผนพัฒนาประสิทธิภาพห้องปฏิบัติการของสมาชิก
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประเมินคุณภาพห้องปฏิบัติการโดยองค์กรภายนอก หรือแผนการทดสอบความชำนาญของห้องปฏิบัติการนี้ เป็นวิธีการสำคัญของการประกันคุณภาพการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ และเป็นการเฝ้าระวังการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของห้องปฏิบัติการ ถือเป็นงานด้านพัฒนาระบบคุณภาพทางห้องปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมให้ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์มีระบบคุณภาพตามมาตรฐาน สามารถสนับสนุนการให้บริการของสถานพยาบาล และหน่วยงานสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ
"แผนการทดสอบความชำนาญทางห้องปฏิบัติการการตรวจเอชไอวีซีโรโลยีแห่งชาติของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการพัฒนาระบบคุณภาพ และกระบวนการทำงาน โดยผ่านการรับรองความสามารถตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17043:2010 จากกรมวิทยาศาสตร์บริการ ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา และล่าสุดศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 8 อุดรธานี ได้รับการรับรองเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านระบบคุณภาพให้กับสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการต่อไป" นายแพทย์สุขุมกล่าว